การสื่อสารเชิงวัฒนธรรมกับการประกอบสร้างความหมาย ในรูปลักษณ์ “รำวง”

Authors

  • วิวัน สุขเจริญ เกษแก้ว คณะวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา
  • ทิฆัมพร เอี่ยมเรไร คณะบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ และการสื่อสาร มหาวิทยาลัยนเรศวร

Keywords:

รำวง, รูปลักษณ์, การสื่อสารเชิงวัฒนธรรม, การประกอบสร้าง

Abstract

                 Ramwong is a cultural communication which indicates a construction of meaning of the morphology from the past to present. It can be categorized into 5 eras.
                 First, in the Traditional Era (Jaarede), “Ram Tone” was the basis of the formation for “Ramwong”; however, this era was divided into 2 periods for the pre-historic period about the dance for sending the message to gods by facilitating the ancient soul mate selection. The latter occurred before World War II and continued all the way to the early stages of the war when Ram Tone became a traditional game which could be the mating stage for young males and females. This period showed the way of life and the morphology was in the open text.
                 Second, in the Cultural Era (Wattanatum), it started during the cultural revolution and created the new norms of Ramwong because the State’s authority sets up and control the national culture in order to build up the nation and stimulation. Thus, the quite close morphology happened and the text was not open under government specified structures.
                 Next, the Development of Applied Ramwong Era, the development, changes, and articulation expressed the power of the middle and lower class people so as to negotiate and modify the State’s authority. The semi-open morphology was hybridized by the state’s control and community’s pattern; moreover, the construction of meaning was applied for both international and local.
                 Then, in the Professional Ramwong Era, it represented in the entertainment business, commercial arts, and commercial communications by the power people such as private sectors, or investors to reproduce cultures beneficially so the morphology is in the definitely open text within the state’s control condition.
                 Lastly, in the Restoration Era, the traditional Ramwong, the means of nostalgia, needed to be restores since the professional Ramwong became prospered and reproduced in terms of the health purpose. All of people can participate in the cultural production and reproduction process by specifying the format or definitions for traditional Ramwong. The morphology of the era developed the widely open text and varieties. It can reveal the reproduction for inheriting the adaptation efficiency to overcome the dimension of time to the present.

References

กาญจนา แก้วเทพ (2551), “ทฤษฎีว่าด้วยเนื้อหา/สาร และความหมาย”, ใน ปรัญญานิเทศศาสตร์และทฤษฎีการสื่อสาร, นนทบุรี: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

________. (2553), แนวพินิจใหม่ในสื่อสารศึกษา, กรุงเทพฯ: ภาพพิมพ์.

กาญจนา แก้วเทพ และสมสุข หินวิมาน (2553), สายธารแห่งนักคิดทฤษฎีเศรษฐศาสตร์การเมืองกับสื่อสารศึกษา, กรุงเทพฯ: ภาพพิมพ์.

แก้วตา สาลีโภชน์ (2549), ระบบหน่วยคำแนวไวยากรณ์โครงสร้าง, พิษณุโลก: คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร.

จิตติมา นาคีเภท (2547), การแสดงพื้นบ้านของอำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย, วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (นาฏศิลป์ไทย) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

จิรานุวัฒน์ ศรีมาลัย (2554), รูปแบบการเรียนรู้และสืบทอดรำวงในวิถีชุมชนอีสาน, วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (ดุริยางคศิลป์) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

โจนส์, โรเบิร์ต บี. และคณะ (1970), ประมวลความเรียงเบ็ดเตล็ด เล่ม 1 (Thai Cultural Reader Book 1), นิวยอร์ก: เซาท์อีสท์เอเชียโปรแกรมคอร์แนลล์ ยูนิเวอร์ซิตี้.

ชูศักดิ์ ภัทรกุลวณิชย์ (2544), “ทฤษฎีวรรณกรรมในศตวรรษที่ 20”, เนชั่นสุดสัปดาห์, 10 (487).

ฐิติรัตน์ เกิดหาญ (2555), นาฏศิลป์ไทย, ปทุมธานี: สกายบุ๊กส์.

ทิพย์พธู กฤษสุนทร (2550), การวิเคราะห์การปรับตัวของสื่อพื้นบ้าน: ศึกษากรณีเพลงโคราช จังหวัดนครราชสีมา, วิทยานิพนธ์ปริญญาวารสารศาสตรมหาบัณฑิต (สื่อสารมวลชน) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก) (2514), ประชุมลำนำ ประมวลตำรากลอนกานต์ โคลง ฉันท์, พระนคร: คณะกรรมการจัดพิมพ์เอกสารทางประวัติศาสตร์.

ธิดา โมสิกรัตน์. (2532). การละเล่นพื้นบ้านของไทย. ใน ศิลปะ การละเล่น และการแสดงพื้นบ้าน ของไทย. นนทบุรี: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

เธียรชัย อิศรเดช และคณะ. (2546). โนราตายายนาฏกรรมแห่งจิตวิญญาณที่ยังไม่ตายไปจากคนใต้. นนทบุรี: โครงการสื่อพื้นบ้านสื่อสารสุข.

นวลรวี จันทร์ลุน (2548), พัฒนาการและนาฏยลักษณ์ของรำโทน จังหวัดนครราชสีมา, วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (นาฏยศิลป์ไทย) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

บุญโปรด สัมพันธรัตน์ (2537), วิเคราะห์วรรณกรรมเพลงรำวงสุนทราภรณ์, วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (ภาษาไทย) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ภาคใต้ สงขลา.

ปิ่นเกศ วัชรปาณ (2543), รำวง: กรณีศึกษารำวงอาชีพ ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี, วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (นาฏยศิลป์ไทย) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ภรตมุนี (2541), นาฏยศาสตร์, แปลโดย แสง มนวิทูร, กรุงเทพฯ: กองวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร.

ภิญโญ ภู่เทศ (2547), การศึกษาเพลงรำวงโบราณของตำบลหนองกลับ อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์, ปริญญานิพนธ์ศิลปมหาบัณฑิต (มานุษยดุริยางควิทยา) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

รวีทิวา ไวยนันท์ (2552), การแพร่กระจายวัฒนธรรมการแสดงรำโทน จังหวัดลพบุรี, วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (ดุริยางค์ไทย) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

วันทนีย์ ดวงอาจ (2546), เปรียบเทียบเพลงรำวงพื้นบ้านของตำบลมะขามสูง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลกกับเพลงรำวงพื้นบ้านตำบลน้ำริด อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์, วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (ภาษาไทย) มหาวิทยาลัยนเรศวร.

ศิลปากร, กรม (2550), ทะเบียนข้อมูลวิพิธทัศนา ชุดระบำ รำ ฟ้อน เล่ม 2, กรุงเทพฯ: ไทยภูมิ พับลิชชิ่ง.

สมสุข หินวิมาน (2551), “ทฤษฎีสำนักวัฒนธรรมศึกษา”, ใน ปรัชญานิเทศศาสตร์และทฤษฎีการสื่อสาร, นนทบุรี: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

สุจิตต์ วงษ์เทศ (2551), ร้องรำทำเพลง: ดนตรีและนาฏศิลป์ชาวสยาม, กรุงเทพฯ: กองทุนเผยแพร่ความรู้สู่สาธารณะ.

สุชาดา พงศ์กิตติวิบูลย์ (2551), การสืบทอดสื่อพื้นบ้านเท่งตุ๊ก จ.จันทบุรี เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็ง ให้แก่ชุมชน, วิทยานิพนธ์ปริญญานิเทศศาสตรดุษฎีบัณฑิต (นิเทศศาตร์) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สุรพล วิรุฬห์รักษ์ (2547), หลักการแสดงนาฏยศิลป์ปริทรรศน์, กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

อติพร สุนทรสนาน (2514), เอื้อ สุนทรสนาน 5 รอบ, ธนบุรี: ป. พิศนาคะการพิมพ์.

อติภพ ภัทรเดชไพศาล (2553), ดนตรี พื้นที่ เวลา, กรุงเทพฯ: โอเพ่นบุ๊คส์.

อานันท์ นาคคง (2553), “ลูกหลานด๊านซ์กระจาย ปู่ย่าตายายรำวงด้วยกัน”, ทีทัศน์วัฒนธรรม, 9: 55-76.

เอนก นาวิกมูล (2550), เพลงนอกศตวรรษ, กรุงเทพฯ: มติชน.

Bhabha, H. (1990), Nation and Narration, London: Routledge.

McQuail, D. (2010), McQuail's Mass Communication Theory, London: Sage.

Williams, R. (1981), Culture, London: Fontana.

“ตีทะเบียน 68 รายการ มรดกภูมิปัญญาไทย”, ไทยรัฐออนไลน์, สืบค้นเมื่อ 29 ธันวาคม 2557 จาก www.thairath.co.th/content/448648.

Downloads

Published

2018-11-05

How to Cite

เกษแก้ว ว. ส., & เอี่ยมเรไร ท. (2018). การสื่อสารเชิงวัฒนธรรมกับการประกอบสร้างความหมาย ในรูปลักษณ์ “รำวง”. วารสารศาสตร์, 11(2), 58. retrieved from https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jcmag/article/view/153646