รูปแบบการบริหารงานวิชาการสู่ความเป็นเลิศตามหลักอิทธิบาท 4 ของโรงเรียน ประถมศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 2

Main Article Content

สิทธิชัย แสนนิทา
ปฏิธรรม สำเนียง
วรกฤต เถื่อนช้าง

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพบริหารงานวิชาการ 2) สร้างรูปแบบการบริหารงานวิชาการสู่ความเป็นเลิศตามหลักอิทธิบาท 4 และ 3) ประเมินรูปแบบการบริหารงานวิชาการสู่ความเป็นเลิศตามหลักอิทธิบาท 4 ของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 2 การวิจัยนี้แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน คือ 1) ศึกษาสภาพบริหารงานวิชาการ ประชากร จำนวน 1,217 คน กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 291 คน 2) การสร้างรูปแบบการบริหารงานวิชาการฯ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 9 รูป/คน โดยการจัดสนทนากลุ่ม และ 3) การประเมินรูปแบบการบริหารงานวิชาการฯ ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 15 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบประเมินรูปแบบการบริหารงานวิชาการสู่ความเป็นเลิศตามหลักอิทธิบาท 4 ของโรงเรียนประถมศึกษา 4 ด้าน คือ ด้านความถูกต้อง เหมาะสมความเป็นไปได้ในการปฏิบัติและเป็นประโยชน์ สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย พบว่า 1) สภาพการบริหารงานวิชาการ โรงเรียนประถมศึกษา ผลการดำเนินการโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (gif.latex?\bar{X} =3.90, S.D.=.731)  พิจารณารายด้านพบว่า ค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านสื่อและการเรียนการสอน รองลงมา ได้แก่ ด้านประกันคุณภาพการศึกษา และค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านการวัดผลและประเมินผล 2) รูปแบบการบริหารงานวิชาการสู่ความเป็นเลิศตามหลักอิทธิบาท 4 ของโรงเรียนประถมศึกษา ประกอบด้วย 6 รูปแบบคือ 1) ด้านหลักสูตรตามหลักอิทธิบาท 4 2) ด้านการเรียนการสอน ตามหลักอิทธิบาท 4  3) ด้านสื่อและการเรียนการสอน ตามหลักอิทธิบาท 4 4) ด้านการวัดผลและประเมินผลตามหลักอิทธิบาท 4 5) ด้านการนิเทศภายในตามหลักอิทธิบาท 4 6) ด้านประกันคุณภาพการศึกษา ตามหลักอิทธิบาท 4 และ 3) การประเมินรูปแบบการบริหารงานวิชาการสู่ความเป็นเลิศตามหลักอิทธิบาท 4 ของโรงเรียนประถมศึกษา ด้านความถูกต้อง เหมาะสมความเป็นไปได้ในการปฏิบัติและเป็นประโยชน์ ภาพรวมทั้ง 6 ด้าน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในดีมาก (gif.latex?\bar{X} = 4.63, S.D.=.518)  

Article Details

How to Cite
แสนนิทา ส. ., สำเนียง ป. ., & เถื่อนช้าง ว. (2023). รูปแบบการบริหารงานวิชาการสู่ความเป็นเลิศตามหลักอิทธิบาท 4 ของโรงเรียน ประถมศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 2 . วารสารวิจยวิชาการ, 6(6), 55–64. https://doi.org/10.14456/jra.2023.129
บท
บทความวิจัย

References

ชำนาญ บุญวงศ์. (2557). การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิภาพโดยยึดหลักภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีมในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. (วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์.

ประภาศิริ คูนาคำและคณะ. (2559). รูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วมในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 10(2), 58-70.

พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 (3). (2545, 19 ธันวาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่มที่ 119 ตอนที่ 123ก, หน้า 16.

สุชาติ วิริยะ. (2558). การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1. (วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.

Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.