ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเลือกเรียนต่อของนักศึกษาระดับอนุปริญญาในวิทยาลัยชุมชนพิจิตร สถาบันวิทยาลัยชุมชน

Main Article Content

เกรียงศักดิ์ สุวรรณวัจน์

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ 2) ศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ และ 3) สร้างสมการพยากรณ์ แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเลือกเรียนต่อของนักศึกษาระดับอนุปริญญา ในวิทยาลัยชุมชนพิจิตร สถาบันวิทยาลัยชุมชน ประชากรเป็นนักศึกษาระหว่างปีการศึกษา 2565-2566 จำนวน 253 คน กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 155 คน ซึ่งได้มาด้วยการสุ่มแบบแบ่งชั้น ใช้เครื่องมือที่เป็นแบบสอบถามแบบมาตรประมาณค่า 5 ระดับ มีความเที่ยงทั้งฉบับเท่ากับ .917 เก็บข้อมูลออนไลน์ ผ่าน Google Form วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนาเป็นค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน กับสถิติอนุมาน เป็นการวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบหลายขั้นตอน ผลการวิจัย พบว่า 1) ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเลือกเรียนต่อด้านหลักสูตรและการจัดการศึกษา ด้านความเป็นครูมืออาชีพ ด้านพัฒนาการทางอาชีพ ด้านความคาดหวังของครอบครัว เห็นว่ามีอิทธิพลอยู่ในระดับมาก ยกเว้นด้านอาคารสถานที่และสภาพแวดล้อมเห็นว่ามีอิทธิพลอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเลือกเรียนต่อมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก 2) ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเลือกเรียนต่อด้านพัฒนาการทางอาชีพ และด้านอาคารสถานที่และสภาพแวดล้อมกับแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ 3) สมการพยากรณ์ แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเลือกเรียนต่อของนักศึกษาระดับอนุปริญญา ในวิทยาลัยชุมชนพิจิตร สถาบันวิทยาลัยชุมชน ปัจจัยด้านพัฒนาการทางอาชีพ (X3) ปัจจัยด้านอาคารสถานที่และสภาพแวดล้อม (X5) และปัจจัยด้านความเป็นครูมืออาชีพ (X2) มีอิทธิพลต่อแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ (y) โดยมีค่าสัมประสิทธิ์พหุคูณสะสมทั้ง 3 ปัจจัยรวมกันเท่ากับ .413 และสามารถพยากรณ์ร่วมกันได้ร้อยละ 17.10 สามารถเขียนสมการพยากรณ์ได้ดังนี้


สมการในรูปคะแนนดิบ  = 1.845 +.254(X3) + .634(X5) - .387(X2)


สมการในรูปคะแนนมาตรฐาน   = .258(z3) + .231(z5) - .152(z2)

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
สุวรรณวัจน์ เ. . (2025). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเลือกเรียนต่อของนักศึกษาระดับอนุปริญญาในวิทยาลัยชุมชนพิจิตร สถาบันวิทยาลัยชุมชน. วารสารวิจยวิชาการ, 8(3), 209–224. https://doi.org/10.14456/jra.2025.65
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

จารวี โกมลดิษฐ์. (2557). การพัฒนาระบบการส่งเสริมกิจกรรมนักศึกษาวิทยาลัยชุมชน. วารสารวิจัยและพัฒนาวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, 9(1), 176-185.

ฉลองชัย ธีวสุทรสกุล, อาจณรงค์ มโนสุทธิฤทธิ์ และสุภาวดี อิสณพงษ์. (2557). การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบนำตนเองของนักศึกษาวิทยาลัยชุมชน โดยกระบวนการศึกษาผ่านบทเรียน. (รายงานการวิจัย). มหาวิทยาลัยบูรพา : คณะวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์.

ธวัชชัย จิตวารินทร์. (2564). คุณลักษณะของผู้บริหารวิทยาลัยชุมชนที่ส่งผลต่อการจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21. วารสารวิชาการบัณฑิตศึกษาและสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์, 11(1), 33-45.

ฟาทูณี มะมีเยาะ. (2562). การศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสถิติธุรกิจของนักศึกษาหลักสูตรอนุปริญญา สาขาวิชาการจัดการทั่วไป วิทยาลัยชุมชนนราธิวาส. (สารนิพนธ์หลักสูตรอนุปริญญา สาขาวิชาการจัดการทั่วไป) วิทยาลัยชุมชนนราธิวาส : สถาบันวิทยาลัยชุมชน.

มนัส จันทร์พวง. (2564). กลยุทธ์การบริหารงานวิชาการของวิทยาลัยชุมชนตามแนวคิดการศึกษา 4.0. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการศึกษา). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย.

สมยศ เผือดจันทึก. (2562). กลยุทธ์การบริหารจัดการวิทยาลัยชุมชนที่ตอบสนองนโยบายประเทศไทย 4.0. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการศึกษา). วิทยาลัยครุศาสตร์ : มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.

สำนักงานบริหารงานวิทยาลัยชุมชนพิจิตร. (2547). แนวทางการจัดการศึกษาของวิทยาลัยชุมชนพิจิตร. พิจิตร : วิทยาลัยชุมชนพิจิตร สถาบันวิทยาลัยชุมชน.

สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเพชรบูรณ์. (2563). การศึกษาความต้องการของประชาชนจังหวัดเพชรบูรณ์ในการรับบริการทางการศึกษาจากวิทยาลัยชุมชนเพชรบูรณ์. เพชรบูรณ์ : สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเพชรบูรณ์ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ.

สุรวุธ ชยานันท์โชตินันท์ และสุกัญญา แช่มช้อย. (2560). รูปแบบการบริหารเครือข่ายการจัดการศึกษาของวิทยาลัยชุมชน. สักทอง วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 21(3), 124-135.