วิเคราะห์การบริหารจัดการองค์การสงฆ์ในสมัยพุทธกาล
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) เพื่อศึกษาแนวคิด ทฤษฎี การบริหารจัดการองค์การสมัยปัจจุบัน 2) เพื่อศึกษาการบริหารจัดการองค์การสงฆ์ในสมัยพุทธกาล และ 3) เพื่อวิเคราะห์การบริหารจัดการองค์การสงฆ์สมัยพุทธกาลเพื่อเป็นแนวทางการบริหารจัดการองค์การสงฆ์ในสมัยปัจจุบัน การวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้การสนทนากลุ่มและการสัมภาษณ์เชิงลึก ผลจากการวิจัยพบว่า 1. หลักการบริหาร “POSDCoRB” ประกอบด้วย การวางแผน การจัดองค์การ การจัดบุคลากร การอำนวยการสั่งงาน การประสานงาน การรายงาน และการงบประมาณ และแนวคิดการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ หรือหลักการวิเคราะห์ SWOT” เพื่อต้องการหาจุดแข็ง กับจุดอ่อน และการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอกเพื่อต้องการหาโอกาสกับภัยคุกคามขององค์กร 2. การบริหารจัดการองค์การตามหลักการบริหาร “POSDCoRB” พระพุทธเจ้าทรงวางแผนการประกาศพระศาสนาทั้งระยะสั้นและระยะยาว ทรงสร้างรากฐานการบัญญัติพระวินัยเพื่อความมั่นคงของพระศาสนา ทรงมอบหมายบุคคลผู้เหมาะสมให้ปฏิบัติหน้าที่ ส่วนการประสานงาน การรายงานเป็นความร่วมมือกันระหว่างพระสาวก คอยรายงานเรื่องต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงแก้ไขและติดตามผลเป็นประจำวัน 3. SWOT ขององค์การสงฆ์สมัยพุทธกาล คือ (1) จุดแข็ง ได้แก่ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ที่เป็นพระอริยบุคคล (2) จุดอ่อน ได้แก่ พระสงฆ์ที่ยังเป็นปุถุชน (3) โอกาส ได้แก่ สภาพแวดล้อมทางสังคมของชมพูทวีปสมัยพุทธกาลเอื้ออำนวย (4) อุปสรรค ได้แก่ ศาสนาพราหมณ์ ศาสนาเซนและลัทธิของครูทั้ง 6 แนวทางการบริหารจัดการองค์การสงฆ์ไทยในสมัยปัจจุบันมี 3 แนวทางคือ 1) การปรับโครงสร้างการปกครองคณะสงฆ์เดิมและเพิ่มเติมหน่วยงานใหม่ 2) แก้ไขพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ โดยการหาทางออกร่วมกัน และ 3) การปฏิรูปการศึกษาคณะสงฆ์เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของผู้ปกครองคณะสงฆ์
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
ข้อความที่ปรากฎอยู่ในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความ และข้อคิดเห็นนั้นไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
เอกสารอ้างอิง
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต). (2559). พุทธธรรม ฉบับขยายความ. พิมพ์ครั้งที่ 46. กรุงเทพมหานคร: บริษัท สหธรรมิก จำกัด.
พระครูอุทัยกิจจารักษ์ (สุรางค์ สุจิณฺโณ). (2556). “รูปแบบการบริหารจัดการการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ขององค์กรปกครองคณะสงฆ์ภาค 2”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย.
พระครูโสภณปริยัตยานุยุต (เจมศักดิ์ กิตฺติวณฺโณ). (2559) “กลยุทธ์การปกครองคณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร เพื่อความมั่นคงแห่งพระพุทธศาสนา”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระครูวิสุทธานันทคุณ (สุรศักดิ์ วิสุทฺธาจาโร). (2557). “การบริหารจัดการวัดเพื่อความมั่นคงแห่งพระพุทธศาสนา”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระมหาธฤติ วิโรจโน. (2559) “รูปแบบการพัฒนาพระสังฆาธิการเพื่อประสิทธิภาพการบริหารกิจการคณะสงฆ์”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระมหาสัญญา ขนฺติธมฺโม (ตรีสวัสดิ์). (2560). “รูปแบบการปกครองสงฆ์ไทยในอนาคต”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย,
พระณรงค์ สังขวิจิตร. (2558). “การปกครองคณะสงฆ์ไทยในปัจจุบัน: ปัญหาและแนวทางแก้ไข”. วิทยานิพนธ์ศิลปะศาสตรมหาบัณฑิต สาชาวิชาพุทธศาสนศึกษา. บัณฑิตศึกษา: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ทรงวิทย์ แก้วศรี. (2551). “การศึกษาวิเคราะห์ยุทธวิธีในการประกาศศาสนาของพระพุทธเจ้า”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2551.
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.