แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษาเพื่อเพิ่มประสิทธิผล การบริหารในเครือข่ายการจัดการศึกษาแบบบูรณาการศีขรภูมิ 2 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาและเปรียบเทียบภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษา 2) ศึกษาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษาเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการบริหาร กลุ่มตัวอย่างคือ ครูจำนวน 140 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างจากตารางของเครจซีและมอร์แกน และสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือการวิจัยได้แก่ แบบสอบถาม ได้ค่าดัชนีความสอดคล้อง 0.67-1.00 ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.92 สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) ภาวะผู้นําเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษาโดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านการทำงานแบบทีม ด้านการมีความยืดหยุ่น ด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือด้านการมีความคิดสร้างสรรค์ 2) การเปรียบเทียบภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษาจำแนกตามประสบการณ์การทำงาน โดยภาพรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน 3) แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษาเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการบริหารได้แก่ ผู้บริหารต้องมีความสามารถในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีการวิเคราะห์และสังเคราะห์บริบทสถานศึกษาเพื่อพิจารณาต้นทุนของสถานศึกษาในการพัฒนาประสิทธิภาพของสถานศึกษาให้สูงขึ้น โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีคุณภาพด้านการเรียน มีความสุข มีสุขภาพดี มีสุนทรียภาพและมีค่านิยมที่เหมาะสมตามมาตรฐานการศึกษาที่ผู้เรียนพึงมี
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
ข้อความที่ปรากฎอยู่ในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความ และข้อคิดเห็นนั้นไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
เอกสารอ้างอิง
ซูไฮรี มะลีเป็ง. (2564). “ภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษากับการบริหารงานด้านการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2”. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา.
ณณัฐ ช่วยงาน. (2565). “ภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ที่ส่งผลต่อประสิทธิผลในการบริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยอง เขต 2”. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. คณะครุศาสตร์: มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี.
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์เขต 1. (2565). รายงานผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณพ.ศ.2564. สืบค้นข้อมูลเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2565 จาก http://www.surinarea1.go.th/srn1/index.php/rpct/1783-2564-3
อัยริน สมาแอ. (2562). “การศึกษาภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 3”. สารนิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตศึกษา: มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.
เอกรินทร์ ไชยแสง และคมสันทิ์ ขจรปัญญาไพศาล. (2565). การศึกษาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22. วารสารการบริหารการศึกษาและภาวะผู้นำมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 10(38): 215-224.
Krejcie, R.V. and Morgan, D.W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational And Psychological Measurement, (30)(3): 607-610.