การวิเคราะห์ความต้องการจำเป็นในการพัฒนารูปแบบ การจัดกิจกรรมทางกาย สำหรับนักศึกษาสาขาวิชาคณิตศาสตร์

Main Article Content

ชนกานต์ ขาวสำลี
สิอร หาสาสน์ศรี

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความคิดเห็นของนักศึกษาที่มีต่อสภาพการจัดกิจกรรมทางกายในปัจจุบันกับสภาพที่คาดหวังของนักศึกษาสาขาวิชาคณิตศาสตร์ และ 2) วิเคราะห์ความต้องการจำเป็นในการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมทางกาย สำหรับนักศึกษาสาขาวิชาคณิตศาสตร์ เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักศึกษาสาขาวิชาคณิตศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ชั้นปีที่ 1-4 จำนวน 108 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามความคิดเห็นของนักศึกษาที่มีต่อสภาพการจัดกิจกรรมทางกายในปัจจุบันกับสภาพที่คาดหวัง วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย () ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการหาค่าดัชนีความสำคัญของความต้องการจำเป็น (Priority Needs Index: PNI) ผลการวิจัยพบว่า 1) นักศึกษามีความคิดเห็นต่อสภาพการจัดกิจกรรมทางกายในปัจจุบันในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (= 3.78, S.D. = 0.90) โดยด้านผู้สอนมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาคือ ด้านรูปแบบการออกกำลังกายและด้านผู้นำการออกกำลังกายตามลำดับ ส่วนสภาพที่คาดหวังพบว่า นักศึกษามีความคิดเห็นในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (= 4.29, S.D. = 0.76) โดยด้านผู้สอนมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาคือ ด้านรูปแบบการออกกำลังกาย และด้านผู้นำการออกกำลังกายตามลำดับ และ 2) ความต้องการจำเป็นในการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมทางกาย สำหรับนักศึกษาสาขาวิชาคณิตศาสตร์พบว่า ด้านผู้นำการออกกำลังกาย (PNIModified = 0.18) มีความต้องการจำเป็นมากที่สุด รองลงมาคือ ด้านรูปแบบการออกกำลังกาย (PNIModified = 0.11) และด้านผู้สอน (PNIModified = 0.07) มีความต้องการจำเป็น เป็นลำดับสุดท้าย 

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

เขมชุดา ศรีสุวรรณ และสุรัตนา อดิพัฒน์. (2566). การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน. วารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร, 6(4): 1-10.

ทวีศักดิ์ สว่างเมฆ. (2557). การศึกษาการจัดการกีฬาเพื่อสร้างเสริมสุขภาพของนิสิตนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 17(3): 89-99.

เทอดทูน ค้าขาย และดุรงค์ฤทธิ์ สุขสมบัติ. (2564). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการออกกำลังกายของนักศึกษาระดับปริญญาตรี สถาบันอุดมศึกษาในจังหวัดนครราชสีมา. สิกขาวารสารศึกษาศาสตร์, 8(2): 193-205.

พัชริดา กุลครอง. (2565). กิจกรรมทางกาย ยิ่งทำ ยิ่งได้ (มากกว่าที่เราคิด). สืบค้นข้อมูลเมื่อ 13 สิงหาคม 2566 จาก https://pt.mahidol.ac.th.

พิชัย นิราราช. (2556). การศึกษาสมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้การออกกำลังกายแบบสควอททรัสต์. รายงานการศึกษาอิสระ. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

โพสต์ทูเดย์. (2563). Work from Home ทำคนเนือยนิ่งยิ่งเสี่ยง 5 อาการร้ายทำลายสุขภาพ. สืบค้นข้อมูลเมื่อ 2 กันยายน 2566 จาก https://dmh.go.th.

ภานุพันธ์ ลาภรัตนทอง. (2563). รูปแบบการจัดการกิจกรรมทางกาย สำหรับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล. วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยนเรศวร.

วริศ วงศ์พิพิธ และคณะ. (2563). กิจกรรมทางกายและพฤติกรรมเนือยนิ่ง: แนวทางและการประเมิน. วารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ, 21(1): 1-21.

สุรีย์ฉาย พุดสีเสน. (2563). “กิจกรรมทางกาย (Physical activity) สำคัญไฉน”. สืบค้นข้อมูลเมื่อ 24 ตุลาคม 2566 จาก https://pt.mahidol.ac.th.

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพ. (ม.ป.ป.). โรคภัยของเด็กยุคดิจิทัล Gen Z. กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพ.

อุดม อัศวุตมางกุร และฐิติกร โตโพธิ์ไทย. (2566). สถานการณ์การมีกิจกรรมทางกายและพฤติกรรมเนือยนิ่งในแต่ละเขตสุขภาพของประเทศไทย. วารสารการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม, 46(3): 114-128.