การศึกษาความต้องการจำเป็นของการดำเนินการตามมาตรการ ฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 1

Main Article Content

ธนวรรณ แสงอิ่ม
สรรชัย ชูชีพ
ภัสยกร เลาสวัสดิกุล

บทคัดย่อ

          บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการดำเนินงานตามมาตรการฟื้นฟูภาวะถดถอยของการเรียนรู้ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 1 2) ศึกษาความต้องการจำเป็นในการดำเนินการตามมาตรการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 1 กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยจำนวน 290 คน โดยกำหนดสัดส่วน ผู้บริหาร 44 คนและครู 246 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งนี้ได้แก่แบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ  มีความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาอยู่ระหว่าง 0.60 – 1.00 มีค่าความเชื่อมั่น 0.986 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่  การแจกแจงความถี่  ค่าร้อยละ  ค่าเฉลี่ย การจัดเรียงลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็น (Priority Need Index: PNI) และการวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis) โดยการเขียนบรรยาย ผลการศึกษาพบว่า 1. สภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ ใน 7 มาตรการ ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา พบว่า 1.1 สภาพปัจจุบันในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านโดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย 2 ลำดับแรก ได้แก่  มาตรการที่ 5 การสร้างทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้และสุขภาวะที่ดีของผู้เรียนทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต มาตรการที่ 2 การจัดสวัสดิการความปลอดภัยและการสร้างขวัญกำลังใจ 1.2 สภาพที่พึงประสงค์ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านโดยระดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย 2 ลำดับแรก ได้แก่ มาตรการที่ 5 สร้างทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้และสุขภาพที่ดีของผู้เรียนทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต มาตรการที่ 2 จัดสวัสดิการความปลอดภัยและสร้างขวัญและกำลังใจ 2. ความต้องการจำเป็นโดยภาพรวม พบว่า ด้านที่มีความต้องการจำเป็นจากมากไปน้อย 2 ลำดับแรก ได้แก่ มาตรการที่ 6 การยกระดับการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยีอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ มาตรการที่ 2 การเสริมพลังพัฒนาครูและผู้บริหารสถานศึกษา

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2565). มาตรการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด.

นรรธพร จันทร์เฉลี่ย. (2564). บทสัมภาษณ์ เรื่องภาวะความรู้ถดถอย (Learning Loss). สืบค้นข้อมูลเมื่อ 2 ธันวาคม 2565 จาก https://www.starfishlabz.com/blog/601/

เพ็ญสุดา ฤทธิ์มนตรี และวิเชียร รู้ยืนยง. (2562). กลยุทธ์การเสริมสร้างทักษะภาวะผู้นำในศตวรรษที่ 21 ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วารสารบัณฑิตศึกษามหาจุฬาขอนแก่น, 6(4): 83-96.

รัตนมน เกษจุฬาศรีโรจน์. (2562). การศึกษากระบวนการพัฒนาการเรียนรู้ทางอารมณ์และสังคมสำหรับเด็กในช่วงรอยเชื่อมต่อทางการศึกษาจากชั้นเรียนอนุบาลสู่ชั้นเรียนประถมศึกษาปีที่ 1. ปริญญาครุศาสตร์มหาบัณฑิต ภาควิชาหลักสูตรและการสอน. คณะครุศาสตร์. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

รัตนา กาญจนพันธุ์. (2563). คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 ตามการรับรู้ของ ครูในโรงเรียนเครือสหวิทยาเขตเมืองปราการ จังหวัดสมุทรปราการ. Joumal of Roi Kaensarn Acadeni, 6(5): 94-101.

สถาบันวิจัยเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา. (2565). องค์ความรู้และเทคโนโลยีสารสนเทศ. สืบค้นข้อมูลเมื่อ 20 สิงหาคม 256 จาก https://www.eef.or.th/our-work/research-institute/

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2565). การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.

เอกฤทัย ชัยลิ้นฟ้า. (2566). กลยุทธ์การจัดการเรียนรู้วิถีชีวิตใหม่ สำหรับสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารและพัฒนาการศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

Hoy, Wayne K. and Cecil G, Miskel. (2001). Educational Administration: Theory, Research and Practice. 6 th ed. Mc Graw – Hill International Edition 2001

Nair. (2007). Schools for the 21st century: Are you ready. Searched on 21.