การจัดระบบสารสนเทศของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา

Main Article Content

ปาจรีย์ ทองน้อย
ตรัยภูมินทร์ ตรีตรีศวร

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อศึกษาการจัดระบบสารสนเทศของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา (2) เพื่อเปรียบเทียบการจัดระบบสารสนเทศของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา จำแนกตามเพศ ประสบการณ์ในการทำงาน และขนาดโรงเรียน และ (3) เพื่อประมวลข้อเสนอแนะการจัดระบบสารสนเทศของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่การสอนในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3 อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ปีการศึกษา 2566 จำนวน 194 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับเท่ากับ .988 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และการทดสอบค่าเอฟ ผลการวิจัยพบว่า 1) การจัดระบบสารสนเทศของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา พบว่า โดยภาพรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมาก 2) เปรียบเทียบการจัดระบบสารสนเทศของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา จำแนกตามเพศ ประสบการณ์ในการทำงาน และขนาดโรงเรียน พบว่า ผู้บริหารที่มีเพศต่างกัน มีการจัดระบบสารสนเทศของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ไม่แตกต่างกัน ผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในการทำงานต่างกัน มีการจัดระบบสารสนเทศของสถานศึกษา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และผู้บริหารที่ปฏิบัติงานในโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนต่างกัน มีการจัดระบบสารสนเทศของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 และ 3) เพื่อประมวลข้อเสนอแนะการจัดระบบสารสนเทศของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา พบว่า (1) ผู้บริหารควรมีวิธีการกำหนดระบบเครือข่ายสารสนเทศที่ชัดเจนเป็นปัจจุบัน และเก็บรวบรวมข้อมูลสารสนเทศเป็นปัจจุบันในการรวบรวมข้อมูลต้องมีที่มาที่ไปที่ถูกต้องชัดเจน (2) ผู้บริหารและหน่วยงานต้นสังกัด ตระหนัก วางเเนวปฏิบัติให้เเต่ละโรงเรียนดำเนินงานต่างๆ แบบอิเล็กทรอนิกส์ให้มากขึ้น (3) ผู้บริหารควรมีการประมวลผลข้อมูลให้ตรงกับความต้องการนำไปใช้

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2542). สำนักงานคณะกรรมการศึกษาแห่งชาติ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่ง พ.ศ.2542 และที่ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562. กรุงเทพฯ: สำนักงานนายกรัฐมนตรี.

กระทรวงศึกษาธิการ. (2550). หลักสูตรพัฒนาผู้นําการเปลี่ยนแปลง เพื่อรองรับการกระจายอํานาจ สําหรับผู้บริหารการศึกษาและผู้บริหารสถานศึกษา. นครปฐม: สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา.

กระทรวงศึกษาธิการ. (2554). การจัดระบบและสารสนเทศในสถานศึกษา. กรุงเทพ: กระทรวงศึกษาธิการ.

กาญจน์วริน สิทธิปรีชาพงษ์. (2565). การศึกษาความต้องการการใช้งานระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการ มหาวิทยาลัย (NSRU MIS) ระดับบุคคล. นครสวรรค์: สํานักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์.

ชัยยา บัวหอม. (2563). “การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารงานบุคลากร โรงเรียนน้ำเกลี้ยงวิทยา”. รายงานการวิจัย. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28.

ณัฐพงษ์ เจริญฉาย. (2564). แนวทางการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารในโรงเรียนอนุบาลวัดลูกแกประชานูทิศ. สารนิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

ทิพย์สุดา นามรส. (2564). การจัดการสารสนเทศเพื่อการบริหารงานของโรงเรียน เครือข่ายสถานศึกษาที่ 15 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 1. วารสารการบริหารการศึกษาและภาวะผู้นำ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 10(37): 243-251.

มณฑิรา คงยิ่ง. (2561). การจัดระบบสารสนเทศทางการศึกษาของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสมุทรสาคร. การค้นคว้าอิสระครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษธานี.

ยูไฮนี บากา. (2563). การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 3. สารนิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3. (2566). ข้อมูลสารสนเทศ. สงขลา: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3.

Krejcie, R.V., & Morgan, D.W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, (30)(3): 607-610.