การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดของเดวีส์ที่ส่งเสริมการขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ทักษะการขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์เทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 80 และ3) เพื่อศึกษาความสามารถในการขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการพัฒนาทักษะการขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดของเดวีส์ โดยใช้แบบแผนการทดลองแบบกลุ่มทดลองกลุ่มเดียว กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/4 โรงเรียนสหัสขันธ์ศึกษา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 36 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดของเดวีส์ 2) แบบประเมินความสามารถการขับร้องและ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1.ประสิทธิภาพของกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ทักษะการขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ตามแนวคิดของเดวีส์ที่ส่งเสริมการขับร้อง มีประสิทธิภาพ (88.95/90.83) ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 2.ความสามารถการขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดของเดวีส์เทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 80 อยู่ในเกณฑ์ดีมากคิดเป็นร้อยละ 100 โดยคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 88.95 3.ความสามารถในการขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดของเดวีส์ นักเรียนมีความสามารถทางด้านเนื้อร้องมากที่สุด โดยคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 97.92 และ 4. ความพึงพอใจของนักเรียนหลังจากทำกิจกรรมการเรียนรู้แสดงให้เห็นอยู่ในระดับมากที่สุด
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
ข้อความที่ปรากฎอยู่ในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความ และข้อคิดเห็นนั้นไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
เอกสารอ้างอิง
เกษศริน ทองสุข. (2567). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ทักษะปฏิบัติละครสร้างสรรค์ตามแนวคิดของเดวีส์ สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. วารสารสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม วารสารสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 11(1): 367–382.
เกศรา เพิ่มพูล และคณะ. (2565). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ทักษะปฏิบัตินาฏศิลป์ฟ้อนเสน่ห์สาวเมืองพลตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 16(2): 171-183.
ชานนท์ จงจินากูล, และคณะ. (2566). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ทักษะปฏิบัติกลองชุดตามแนวคิดของเดวีส์ รายวิชาดุริยางค์สากล 2 สําาหรับนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 42(1): 47-57.
ทิศนา แขมมณี. (2557). ศาสตร์การสอน. (พิมพ์ครั้งที่ 18). กรุงเทพฯ: สํานักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นันทิยา ตันศรีเจริญ. (2545). Brain Gym บริหารสมองเพิ่มศักยกาภาพการเรียนรู้. วารสารสานปฏิรู, 5(50) :26-28.
นฤเบศน์ ระดาเขต และสุขิริณณ์ อามาตบัณฑิต. (2565). การพัฒนาทักษะปฏิบัติการ แสดงนาฏศิลป์พื้นบ้านโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดทักษะปฏิบัติของเดวีส์ ร่วมกับมัลติมีเดียของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. Journal of Roi Kaensarn Academi, 7(9): 365-381.
บุญชม ศรีสะอาด. (2556). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพฯ: สุวรีิยาสาส์น
สำนักวิชาการมาตรฐานการศึกษา. (2551). แนวทางการบริหารจัดการหลักสูตรตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
Boone, W. M., & Higgins, C. (2002). The effects of using the Davies' Instructional Model on the learning of technical skills by middle school students with learning disabilities. Learning and Instruction, 12(3): 247-262.