ปัจจัยที่ส่งผลต่อการบรรพชาอุปสมบท: กรณีศึกษาพุทธศาสนิกชน อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการบรรพชาอุปสมบทและเปรียบเทียบโดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล 2) ศึกษาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาและแนวทางแก้ไขปัจจัยที่ส่งผลต่อการบรรพชาอุปสมบท ซึ่งวัตถุประสงค์นี้เป็นกรณีศึกษาพุทธศาสนิกชนในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา งานวิจัยนี้เป็นเชิงปริมาณซึ่งทำการวิจัยกลุ่มตัวอย่างในพระภิกษุสงฆ์และสามเณรในพื้นที่จำนวน 238 รูปจากจำนวนพระภิกษุสงฆ์และสามเณรทั้งสิ้น 628 รูปในพื้นที่ ค่าจำนวนกลุ่มตัวอย่างนั้นได้นำเกณฑ์ขนาดกลุ่มตัวอย่างจากตารางเครจซี่และมอร์แกนมาใช้และมีแบบสอบถามที่มีคำถามสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการวิจัยครั้งนี้ โดยเป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 4 ข้อ คำถามเกี่ยวกับหัวข้องานวิจัยจำนวน 30 ข้อและแบบสอบถามปลายเปิดจำนวน 3 ข้อ โดยได้สร้างแบบสอบถามจากการศึกษาจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องซึ่งสถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาค่าสหสัมพันธ์อย่างง่าย ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการบรรพชาอุปสมบทในด้านการตัดสินใจด้วยตนเองมีค่าเฉลี่ยสูงสุด (= 4.43, S.D = 0.23) รองลงมาคือด้านอิทธิพลของผู้อื่นมีค่าเฉลี่ย (
= 4.36, S.D = 0.31) และด้านอิทธิพลของสื่อสารมวลชนมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด (
= 4.31, S.D = 0.31) โดยปัจจัยส่วนบุคคลที่ส่งผลต่อการบรรพชาอุปสมบทที่แตกต่างกันนั้นไม่ส่งผลต่อการบรรพชาอุปสมบท 2) การรวบรวมข้อเสนอแนะปัจจัยที่ส่งผลต่อการบรรพชาอุปสมบทพบว่าการตัดสินใจด้วยตนเองมีอิทธิพลมากที่สุดรวมถึงควรมีการส่งเสริมให้มีการศึกษาในระยะเวลาก่อนและระหว่างบรรพชาอุปสมบทเพื่อให้เข้าใจถึงหลักธรรมอย่างแท้จริงและมีการตรวจสอบประวัติของผู้ที่จะมาบรรพชาอุปสมบทก่อนอย่างเคร่งครัด รองลงมาคือต้องมีการส่งเสริมหรือช่วยเหลือในการจัดการต่างๆ สำหรับผู้ต้องการบรรพชาอุปสมบทและส่งเสริมเพื่อให้เข้าใจในการบรรพชาอุปสมบทอย่างแท้จริง และด้านอิทธิพลของสื่อสารมวลชนมีความถี่น้อยที่สุดคือควรมีการเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับศาสนาพุทธ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
ข้อความที่ปรากฎอยู่ในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความ และข้อคิดเห็นนั้นไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
เอกสารอ้างอิง
บุญชม ศรีสะอาด. (2554). การวิจัยเบื้องต้น. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
บุญชม ศรีสะอาด. (2556). สถิติสำหรับการวิจัยทางการศึกษา. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
พระมหาพงษ์เชฎฐ์ ธีรวํโส (ไกรจันทร์). (2563). การศึกษาการปฏิบัติหน้าที่ตามพระวินัยของ
พระอุปัชฌาย์ตามทัศนะของสัทธิวิหาริก. วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย.
พระมหาหลอด รตนญาโณ (พูลกิ่ง). (2564). ศึกษาความเห็นของพระนวกะต่อการอุปสมบท: ศึกษากรณีวัดชลประทานรังสฤษฏ์ จังหวัดนนทบุรี. วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาวิชาพุทธศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระสนธยา อธิจิตฺโต (แฝกสูงเนิน). (2564). ปัจจัยที่ส่งเสริมต่อการบวชของพุทธศาสนิกชนในอำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา. วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาการจัดการเชิงพุทธ. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระณัฏฐวัฒน์ ตั้งปฐมวงศ์. (2562). พฤติกรรมการบวชของชายไทยชาวเชียงใหม่: ศึกษากรณี
วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม) จังหวัดเชียงใหม่. วารสารสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 2(2): 8-23.
สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสงขลา. (2567). รายงานบัญชีจำนวนวัด ที่พักสงฆ์ พระภิกษุ สามเณร ชี ศิษย์วัด จังหวัดสงขลา แยกรายอำเภอ ประจำปี 2567. สงขลา: สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสงขลา.