การพัฒนารูปแบบชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพร่วมกับการโค้ชแบบพหุวิธีด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมความสามารถในการประเมินพัฒนาการตามสภาพจริงของครูปฐมวัย
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนารูปแบบชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพฯ และ 2) พัฒนาและหาคุณภาพของรูปแบบชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพร่วมกับการโค้ชแบบพหุวิธีด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมความสามารถในการประเมินพัฒนาการตามสภาพจริงของครูปฐมวัย รูปแบบที่ใช้ในการวิจัยแบบผสมผสานวิธี กลุ่มเป้าหมาย คือ 1) ครูปฐมวัย จำนวน 106 คน แบ่งเป็น 1.1) ครูปฐมวัยที่ใช้ในการประเมินความต้องการจำเป็น จำนวน 100 คน 1.2) ครูปฐมวัยที่ใช้ในการสนทนากลุ่ม จำนวน 6 คน 2) ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน 3) ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ 1) แบบวิเคราะห์เอกสาร 2) แบบสอบถามความต้องการจำเป็น 3) ประเด็นสนทนากลุ่ม 4) แบบสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญและ 5) แบบรับรองคุณภาพของของรูปแบบชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพฯ สถิติที่ใช้ คือ การวิเคราะห์เนื้อหา ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดัชนีความต้องการจำเป็น (PNIModified) และ t-test ผลการวิจัยพบว่า 1) การศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความจำเป็นของรูปแบบชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ พบว่ารูปแบบดังกล่าวควรให้สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์ การระบุปัญหา และสร้างแนวปฏิบัติร่วมกัน โดยมีผู้รู้หรือโค้ชที่มีความรู้ความสามารถเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการชี้นำการพัฒนา ควรนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินงานของ PLC สนับสนุนการแลกเปลี่ยนความรู้ และเผยแพร่ความรู้ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการประเมินพัฒนาการที่แท้จริง เทคโนโลยียังช่วยในการทบทวนความรู้และเปิดโอกาสให้เกิดการคิดวิเคราะห์และการเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา เมื่อเปรียบเทียบในแต่ละด้านพบว่าระดับความคาดหวังโดยเฉลี่ยสูงกว่าสถานการณ์ปัจจุบันในทุกด้าน 2. รูปแบบชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพฯ (5S Model) มี 6 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการ 4) การวัดและประเมินผล 5) เงื่อนไขสำคัญในการนำรูปแบบไปใช้ และ 6) ระบบสนับสนุน ซึ่งการตรวจสอบคุณภาพความเหมาะสมในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
ข้อความที่ปรากฎอยู่ในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความ และข้อคิดเห็นนั้นไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
เอกสารอ้างอิง
ไชยยศ ไพวิทยศิริธรรม. (2556). เอกสารคำสอน: การวัดและประเมินผลการศึกษา. นครปฐม:สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร.
นฤมล เนียมหอม. (2554).การประเมินพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย. http://www.nareumon.com/index.php?option=com_content&task=view&id=15&Itemid=46
พระมหาณรงค์ราช ครองเชื้อ. (2564). การพัฒนารูปแบบการโค้ชแบบพหุวิธีเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้โดยใช้อริยสัจเป็นฐานของ พระสอนศีลธรรมในการเสริมสร้างความสามารถการคิดเชิงเหตุผลทางพระพุทธศาสนาสาหรับ นักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
วัฒนา ปุญญฤทธิ์. (2552). การประเมินพัฒนาการตามสภาพจริงในระดับปฐมวัย. http://www.poonyarit.com
วิจารณ์ พานิช. (2559). บันเทิงชีวิตครูสู่ชุมชนการเรียนรู้. กรุงเทพมหานคร: มูลนิธิสยามกัมมาจล.
วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล. (2562). การพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC). กรุงเทพมหานคร: ศูนย์ผู้นำนวัตกรรมหลักสูตรและการเรียนรู้
สมศักดิ์ ภู่วิภาดาวรรธน์. (2544). การยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางและการประเมินตามสภาพจริง. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ The Knowledge Center.
สุวิมล สพฤกษ์ศรี. (2561). ชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพโดยผสมผสานเทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการ เรียนรู้โดยใช้ศิลปะเป็นฐานที่ส่งเสริมความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมของนักเรียนระดับประถมศึกษา. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). นโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาเด็กปฐมวัย (0–5 ปี) ระยะยาว พ.ศ. 2560–2569. กรุงเทพมหานคร: วี ที ซี คอมมิวนิเคชั่น.
Dick, W., et al. (1990). The systematic design of instruction. (5th ed.). New York: Addison, Wesley and Longman.
Joyce, B., et al. (1996). Model of Teaching. (7th ed.). Boston: Allyn and Bacon.