ผลการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิคเอสทีเอดีที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้วิชาวอลเลย์บอลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย

Main Article Content

จุฑารัตน์ แก้วกำยาน
สาธิน ประจันบาน
อนันต์ มาลารัตน์

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาผลของการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคเอสทีเอดีที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวอลเลย์บอลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ของการจัดการเรียนรู้วิชาวอลเลย์บอลก่อนและหลังเรียนของกลุ่มที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคเอสทีเอดี และ 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ของการจัดการเรียนรู้วิชาวอลเลย์บอลหลังเรียนระหว่างกลุ่มที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคเอสทีเอดีและกลุ่มที่ได้รับการจัดการเรียนรู้พลศึกษา 5 ขั้นตอน การวิจัยนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง กลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 70 คน ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคเอสทีเอดีและกลุ่มควบคุม ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ทางพลศึกษา 5 ขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ เเบบวัดทักษะวอลเลย์บอล เเบบวัดความรู้วิชาวอลเลย์บอล แบบวัดเจตคติที่มีต่อรายวิชาวอลเลย์บอล และแบบวัดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยคำนวณค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานการทดสอบค่าที ด้วยเทคนิคการทดสอบทีแบบจับคู่ การทดสอบทีแบบกลุ่มตัวอย่างเดียว การทดสอบทีแบบอิสระ และการวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วมแบบทางเดียว ผลการวิจัยพบว่า 1) การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคเอสทีเอดี มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวอลเลย์บอลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในวิชาวอลเลย์บอลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคเอสทีเอดี ผลการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และ 3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในวิชาวอลเลย์บอลหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ระหว่างนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคเอสทีเอดีสูงกว่านักเรียนที่ได้รับการเรียนรู้แบบพลศึกษา 5 ขั้นตอน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

กุนนที พุ่มสงวน. (2557). พยาบาลกับการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์. วารสารพยาบาลทหารบก, 15(2): 10-14.

จิรวัฒน์ วงศ์ชุมภู. (2562). ผลการจัดการเรียนรู้วิชาพลศึกษาโดยใช้เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือที่มีต่อทักษะกีฬาแฮนด์บอล และการทำงานเป็นทีมของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 4. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา. คณะครุศาสตร์: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ทิศนา แขมมณี. (2562). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. (พิมพ์ครั้งที่ 23). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

วรศักดิ์ เพียรชอบ. (2561). รวมบทความเกี่ยวกับปรัชญาหลักการวิธีสอน และการวัดเพื่อประเมินผลทางพลศึกษา. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

วาสนา คุณาอภิสิทธิ์. (2561). หลักสูตรและการจัดการเรียนรู้พลศึกษา (ฉบับปรับปรุง 2561). กรุงเทพฯ: ศูนย์ส่งเสริมวิชาการ.

สุนิษา ทองมาก. (2565). ผลของการจัดการเรียนรู้พลศึกษาโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ิ์ทางการเรียนรายวิชาวอลเลย์บอลของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

อธิษฐ์ เชิญขวัญชัย และธนดล ภูสีฤทธิ์. (2563). การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD ประกอบหนังสือประยุกต์ใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม (Augmented Reality) เรื่องการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วารสารเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 3(9): 74-85.

Johnson, D. W., & Johnson, R. T. (1987). Research shows the benefits of adult cooperation. Educational Leadership, 45(3): 27–30.

Johnson, R. T. & Holubec, E.J. (1994). The Nuts and Bolts of. Cooperative Learning. Minnesota: Interaction Book Company.

Masoud, G. L. (2011). The Effect of Cooperative Learning on Mathematics Anxiety and Help-Seeking Behavior. Procedia-Social and Behavioral Sciences, 15(3): 271-276.

Slavin, R. E. (1995). Cooperative learning theory, Research and Practice. (2nd ed.). Massachsetts: A Simom & Schuster.