กลยุทธ์การบริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน 2) พัฒนากลยุทธ์การบริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน 3) ประเมินและรับรองกลยุทธ์การบริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน ประชากร คือ โรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก จำนวน 79 โรงเรียน กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ ได้มาจากการกำหนดขนาดตัวอย่างตารางของเครจซี่และมอร์แกน ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 66 โรงเรียน เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นแบบประเมินค่า 5 ระดับ ค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.97 วิธีการทางสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนี PNI Modified ผลการวิจัย พบว่า 1. สภาพปัจจุบันของการบริหารโรงเรียน ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.39, S.D.=0.43) โดยด้านการติดตามและประเมินผล มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด อยู่ในระดับมาก (
= 4.45, S.D.=0.56) และสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารโรงเรียน ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (
= 4.61, S.D.=0.35) โดยด้านการติดตามและประเมินผล มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด อยู่ในระดับมากที่สุด (
= 4.64, S.D.=0.42) 2. กลยุทธ์การบริหารโรงเรียน มี 3 กลยุทธ์หลักคือ (1) ส่งเสริมผู้เรียนเพื่อสร้างงานและคุณภาพชีวิตที่ดี (2) สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ และ (3) ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลยุทธ์รองจำนวน 9 กลยุทธ์และวิธีดำเนินการจำนวน 43 วิธีดำเนินการ 3. ผลการประเมินและรับรองกลยุทธ์การบริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด (
= 4.63) และมีความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด (
= 4.63)
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
ข้อความที่ปรากฎอยู่ในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความ และข้อคิดเห็นนั้นไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). แผนการศึกษาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ.
จุรีพร รักสบาย. (2564). การบริหารจัดการสถานศึกษาในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก. วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ธราธิป วงษ์แก้ว. (2566). ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก. วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. วิทยาลัยการจัดการมหาวิทยาลัยพะเยา.
พฤทธิ์ ศิริบรรณพิทักษ์. (2552). แนวคิดและหลักการจัดทำแผนกลยุทธ์ (Strategic planning) การบริหารและการจัดการศึกษาเพื่อโลกใบเล็ก. กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิค.
รุ่งทวี พรรณา. (2563). รูปแบบการบริหารหลักสูตรสถานศึกษาตามหลักพุทธธรรมของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก. วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพุทธบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
สถาพร บุตรใสย์. (2563). กลยุทธ์การบริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาตามเป้าประสงค์หลักของแผนพัฒนาการศึกษาในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก. วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา. คณะครุศาสตร์: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2565). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566-2570). กรุงเทพมหานคร: สำนักนายกรัฐมนตรี.
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก. (2561). แผนการพัฒนาบุคลากรการศึกษาการวิจัยและเทคโนโลยีรองรับการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก. https://www.eeco.or.th/content/overviewplan
Krejcie, R. V., & D. W. Morgan. (1970). “Determining Sample Size for Research Activities”. Educational and Psychological Measurement, 30(3): 607–610.
Sammonds, P., et al. (1995). Key Characteristics of Effective School: A Review of School Effectiveness Research. London: OFSTED.