ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยกระตุ้นและปัจจัยบำรุงรักษาตามทฤษฎีสองปัจจัยของเฮอร์ซเบิร์กกับความพึงพอใจในงานและความไม่พึงพอใจในงานของผู้ปฎิบัติงานตัวแทนผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในองค์กรธุรกิจไทย
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยกระตุ้นและปัจจัยบำรุงรักษาตามทฤษฎีสองปัจจัยของเฮอร์ซเบิร์กกับความพึงพอใจและความไม่พึงพอใจในงานของผู้ปฏิบัติงานตัวแทนผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในองค์กรธุรกิจไทย โดยใช้ผู้ปฏิบัติงานตัวแทนผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในองค์กรธุรกิจไทยเป็นหน่วยวิเคราะห์ ผลการศึกษาพบว่าปัจจัยกระตุ้นด้านความสำเร็จ ด้านความรับผิดชอบ ด้านความก้าวหน้า/โอกาสในการเจริญเติบโต ด้านนโยบายการบริหารและปัจจัยบำรุงรักษาด้านการบังคับบัญชา ด้านสภาพแวดล้อมการปฏิบัติงาน ด้านเงินเดือน ด้านตำแหน่งงาน ด้านความมั่นคงและด้านชีวิตส่วนตัวสัมพันธ์ในเชิงบวกกับความพึงพอใจในงาน ในขณะที่ปัจจัยกระตุ้นด้านความสำเร็จ ปัจจัยกระตุนด้านลักษณะงาน ด้านความรับผิดชอบ ด้านนโยบายการบริหาร ด้านการบังคับบัญชา ด้านผู้ร่วมงาน ด้านเงินเดือน ด้านตำแหน่งงานและด้านความมั่นคงสัมพันธ์ในเชิงลบกับความไม่พึงพอใจในงาน
Article Details
ลิขสิทธิ์ของบทความ
ผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ห้ามมิให้นำเนื้อหา ทัศนะ หรือข้อคิดเห็นใด ๆ ของผลงานไปทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยก่อน
เอกสารอ้างอิง
กัลยา วานิชย์บัญชา. (2549). สถิติสำหรับงานวิจัย. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ชูเกียรติ ชาตะรูปะ. (2557). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลการปฏิบัติงานของสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง. (วิทยานิพนธ์ปริญญานิพนธ์มหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์) มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร.กรุงเทพฯ.
ชูเกียรติ ยิ้มพวง. (2554). แรงจูงใจที่มีผลต่อการปฏิบัติงาน : กรณีศึกษาบริษัทบางกอกกล๊าสจำกัด โรงงานจังหวัดปทุมธานี. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์). มหาวิทยาลัยราชมงคลธัญบุรี, ปทุมธานี.
สมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศแห่งประเทศไทย. (2559) สมาชิกผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศแห่งประเทศไทย. สืบค้นเมื่อ 1 กันยายน 2559, จาก
https://www.tiffathai.org/member/index.php?mtype2=&mtype3=&page=1&case1=&case2=&case3=&type_service1=&type_service2=&type_service3=&type_service4=&kword= &area=
สวัสดิ์ศรี จิรประเสริฐกุล. (2556). แรงจูงใจในการทำงานที่มีอิทธิผลต่อการปฏิบัติงานของพนักงานในกลุ่มโลจิสติกส์. วารสารการตลาดและการสื่อสาร. ปีที่ 1 ฉบับที่ 2 เมษายน-มิถุนายน 2556: 691-711
Hackman, J. R., & Oldham, G. R. (1980). Work redesign. Reading, MA: Addison-Wesley.
Herzberg, F. (1959). The Motivation to Work. New York: Wiley.
Mohan, G., & R. Mulla, Z. (2013). Openness to experience and work outcomes: Exploring the moderating effects of conscientiousness and job complexity,Journal of Organizational Behavior, 7(2), 18–36
Smerek, R. E., & Peterson, M. (2006). Examining Herzberg’s theory: Improving job satisfaction among non-academic employees at a university. Research in Higher Education, 48(2), 229-250.
Worlu, R. E. K. (2012). The validity of Herzberg’s dual-factor theory on job satisfaction of political marketers. African Research Review, 6(1), 39-50.