การพัฒนาโปรแกรมพัฒนาครูผู้ช่วยด้านการจัดการเรียนรู้ ในสถานศึกษาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ

Main Article Content

ยุวลี โพยนอก
กาญจน์ เรืองมนตรี

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบและตัวชี้วัดด้านการจัดการเรียนรู้ใน สถานศึกษาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ 2) ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และวิธีการพัฒนา ครูผู้ช่วยด้านการจัดการเรียนรู้ ในสถานศึกษาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ และ 3) พัฒนาโปรแกรม พัฒนาครูผู้ช่วยด้านการจัดการเรียนรู้ ในสถานศึกษาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ มีวิธีด าเนินการวิจัย และพัฒนา 3 ระยะ (Research and Development) โดยด าเนินการเป็น 3 ระยะ ระยะที่ 1 ศึกษาองค์ประกอบ และตัวชี้วัดด้านการจัดการเรียนรู้ กลุ่มเปูาหมาย ผู้ทรงคุณวุฒิ จ านวน 5 คน โดยเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการพรรณนาสังเคราะห์เนื้อหา ระยะที่ 2 ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพ ที่พึงประสงค์ และวิธีการพัฒนาครูผู้ช่วยด้านการจัดการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูผู้ช่วย จ านวน 64 คน โดยใช้ประชากรเป็นกลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้คือ แบบสอบถาม สถิติทีใช้ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ระยะที่ 3 พัฒนาโปรแกรมพัฒนาครูผู้ช่วยด้านการจัดการเรียนรู้ กลุ่มเปูาหมาย ผู้ทรงคุณวุฒิ จ านวน 5 คน โดยเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้คือ แบบประเมิน สถิติที่ใช้ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้ 1. องค์ประกอบและตัวชี้วัดด้านการจัดการเรียนรู้ ในสถานศึกษาสังกัดองค์การบริหารส่วน จังหวัดชัยภูมิ พบว่า องค์ประกอบด้านการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ 12 ตัวชี้วัด 2. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และวิธีการพัฒนาครูผู้ช่วยด้านการจัดการเรียนรู้ ในสถานศึกษาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ 2.1 สภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ของครูผู้ช่วยด้านการจัดการเรียนรู้ ในสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ พบว่า สภาพปัจจุบัน โดยรวมอยู่ในระดับมาก สภาพที่พึงประสงค์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 2.2 การวิเคราะห์ความส าคัญของความต้องการจ าเป็นในการพัฒนาครูผู้ช่วยด้านการจัด การเรียนรู้ในสถานศึกษาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ เรียงล าดับความต้องการจ าเป็นจากสูงสุดไปต่ าสุด คือ การวิจัยเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาผู้เรียน (PNI=0.2967) การวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ ที่คาดหวัง สาระการเรียนรู้ (PNI=0.2953) การออกแบบการจัดการเรียนรู้ (PNI=0.2765) การรายงานผลการเรียนรู้ (PNI=0.2527) 2.3 วิธีการพัฒนาครูผู้ช่วยด้านการจัดการเรียนรู้ ในสถานศึกษาสังกัดองค์การบริหาร ส่วนจังหวัดชัยภูมิ ที่ครูผู้ช่วยมีความเชื่อมั่นว่ามีประสิทธิภาพสูงสุด 3 ล าดับแรก คือ การเรียนรู้จากการปฏิบัติ การอบรม และการประชุมปฏิบัติการ 3. ผลการพัฒนาโปรแกรมพัฒนาครูผู้ช่วยด้านการจัดการเรียนรู้ ในสถานศึกษาสังกัดองค์การ บริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ 3.1 องค์ประกอบของโปรแกรมพัฒนาครูผู้ช่วยด้านการจัดการเรียนรู้ ในสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ มีองค์ประกอบ 9 ส่วน 1) ที่มาและความส าคัญของโปรแกรม 2) วัตถุประสงค์ ของโปรแกรม 3) เปูาหมาย 4) รูปแบบและวิธีการพัฒนา 5) โครงสร้างของโปรแกรม 6) เนื้อหา 7) แนวการจัดกิจกรรม 8) เทคนิคและเครื่องมือ และ 9) การประเมินผล 3.2 เนื้อหาของโปรแกรมพัฒนาครูผู้ช่วยด้านการจัดการเรียนรู้ ในสถานศึกษาสังกัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ประกอบด้วย 4 ชุด ได้แก่ ชุดที่ 1 การวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ ที่คาดหวัง สาระการเรียนรู้ ชุดที่ 2 การวิจัยเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาผู้เรียน ชุดที่ 3 การออกแบบการจัดการเรียนรู้ ชุดที่ 4 การรายงานผลการเรียนรู้ ใช้เวลาในการพัฒนา 12 ชั่วโมง รูปแบบในการพัฒนาเน้นการสร้างองค์ความรู้ ด้วยตนเอง การเรียนรู้ร่วมกันโดยใช้การท ากิจกรรมกลุ่ม และเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และทักษะการเรียนรู้ที่ลึกซึ้งและยั่งยืน เพื่อให้ผู้เข้ารับการพัฒนาสามารถน าไปเป็นหลักการในการพัฒนาตนเอง โดยสรุป โปรแกรมพัฒนาครูผู้ช่วยด้านการจัดการเรียนรู้ ในสถานศึกษาสังกัดองค์การบริหาร ส่วนจังหวัดชัยภูมิ ที่พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสม มีเนื้อหาครอบคลุมด้านการจัดการเรียนรู้ของครูผู้ช่วย มีวิธีการ พัฒนาตนเอง และผู้เข้ารับการพัฒนาสามารถน าความรู้ที่ได้ไปใช้ในการพัฒนาตนเองและพัฒนาผู้เรียนได้จริง จึงควรน าโปรแกรมนี้ไปใช้ในการพัฒนาครูผู้ช่วย ในสถานศึกษาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิต่อไป 

Article Details

บท
บทความวิจัย

References

กระทรวงศึกษาธิการ. พระราชบัญญัตกิารศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภา, 2545. __________. การประเมินความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มต าแหน่งครูผู้ช่วย. ราชกิจจานุเบกษา. เล่มที่ 121 ตอนพิเศษ79 ก. , 2548. จุรีรัตน์ พินิจมนตรี. รูปแบบการพัฒนาตนเองเพื่อพัฒนาผลการปฏิบัติงานของครู ในสถานศึกษาขั้น พื้นฐาน.วิทยานิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 2554. ชัยฤทธิ์ โพธิสุวรรณ. “ความพร้อมในการเรียนรู้โดยการน าตนเองของผู้เรียนผู้ใหญ่ของกิจกรรมการศึกษา ผู้ใหญ่บางประเภท,” ศึกษาศาสตร์ปริทัศน์, 2541. ทิศนา แขมมณี. ศาสตร์การสอน : องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ : ด่านสุทธาการพิมพ์, 2551. วิโรจน์ สารรัตนะ. ผู้บริหารโรงเรียน : สามมิติการพัฒนาวิชาชีพสู่ความเป็นผู้บริหารที่มีประสทิธิผล. ขอนแก่น : คลังนานาวทิยา, 2553. สมคิด อิสระวัฒน์. “การเรียนรู้ด้วยตัวเอง,” วารสารการศึกษานอกโรงเรียน. หน้า 6, 2538. สมหวัง พิธิยานุวัฒน์. อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ : หน้าทแี่ละบทบาท. กรุงเทพฯ : ส านกัมาตรฐานและ ประเมินผลอุดมศึกษาส านักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา, 2549. ส านักงานการปฏิรูปการศึกษา. การปฏิรูปการศึกษาตามพระราชบัญญตัิการศึกษาแห่งชาติ 2542. กรุงเทพฯ : ส านักงานการรูปการศึกษา (สปศ) องค์กรมหาชนเฉพาะกิจ, 2544. สิริลักษณ์ สามารถ. โปรแกรมพัฒนาครูเพื่อการปฏิรูปการเรียนรู้ในโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก. วิทยานพินธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 2554. Brookfield, S. D. “Understanding and Facilitating Adult Learning,” Quarterly. 35 (January 1984) : 59-71. Griffin, C. Curriculum Theory in Adult Lifelong Education. London : Croon Helm, 1983. Skager, Rodney, Dave, R. H. Lifelong Education and Evaluation Practice. New York : UNESCO Institute for Education, Hambury and Pergamon, 1977.