กลยุทธ์การบริหารมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนากลยุทธ์การบริหารมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ 2) รับรองกลยุทธ์การบริหารมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน การดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 การพัฒนากลยุทธ์การบริหารมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้บริหารและอาจารย์ของมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ 9 แห่ง ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิ จำนวน 375 คน และระยะ ที่ 2 การรับรองกลยุทธ์การบริหารมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน ได้มาโดย การเลือกแบบเจาะจงตามเกณฑ์ที่กำหนด เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่แบบสอบถามเพื่อการวิจัย และแบบประเมินความเหมาะสม ความเป็นไปได้ ความถูกต้องและอรรถประโยชน์ของกลยุทธ์การบริหารมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตราฐาน ค่าดัชนีความต้องการจำเป็น และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า 1. ผลการพัฒนากลยุทธ์การบริหารมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ พบว่า มี 6 กลยุทธ์หลัก 24 กลยุทธ์รอง 49 วิธีดำเนินการ ซึ่งมี 6 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1) ยกระดับการบริหารจัดการทั่วไปเกี่ยวกับโครงสร้างและนโยบายวิจัย เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นระดับนานาชาติ 2) ยกระดับการบริหารงานวิชาการเกี่ยวกับผลผลิตและบริการ เพื่อให้มีความเป็นเลิศระดับนานาชาติ 3) ส่งเสริมและสนับสนุนการบริหารงานวิจัย และการบริหารทรัพยากรมนุษย์ เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูง 4) เปลี่ยนแปลงการบริหารงบประมาณ เพื่อความมั่นคงทางการเงิน 5) ส่งเสริมและสนับสนุนคุณภาพด้านวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องมือที่ใช้ในการจัดการศึกษา เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูง และ 6) ยกระดับกระบวนการการบริหารจัดการ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ 2. ผลการรับรองกลยุทธ์การบริหารมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ พบว่า กลยุทธ์การบริหารมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ มีความเหมาะสม มีความเป็นไปได้ อยู่ในระดับมาก มีความถูกต้อง และมีอรรถประโยชน์ อยู่ในระดับมากที่สุด
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
ข้อความที่ปรากฎอยู่ในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความ และข้อคิดเห็นนั้นไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
เอกสารอ้างอิง
จอมพงศ์ มงคลวนิช. (2555). การบริหารองค์การและบุคลากรทางการศึกษา. กรุงเทพฯ: ทวีพริ้น.
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542. (2542, 17 สิงหาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่มที่ 116. ตอนที่ 72 ก, หน้า 2-5.
พระราชบัญญัติ เรื่องยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561. (2561, 13 ตุลาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่มที่ 135. ตอนที่ 82 ก, หน้า 65-70.
พระราชบัญญัติกฎกระทรวง การจัดกลุ่มสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. 2564. (2564, 25 มีนาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่มที่ 138. ตอนที่ 21 ก, หน้า 35-38.
พระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ.2562. (2562, 1 พฤษภาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่มที่136. ตอนที่ 57 ก, หน้า 68-72.
เพ็ญศรี ทิพย์สุวรรณกุล. (2554). การพัฒนาตัวชี้วัดผลการดำเนินงานด้านการวิจัยสำหรับมหาวิทยาลัยวิจัย โดยประยุกต์ใช้เทคนิคดุลยภาพ. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ไพฑูรย์ สินลารัตน์. (2557). การศึกษาไทย 4.0: การศึกษาเชิงสร้างสรรค์และผลิตภาพ. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษา พ.ศ. 2560-2579. กรุงเทพฯ: สำนักนายกรัฐมนตรี.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2560). แผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2560-2564. กรุงเทพฯ: สำนักนายกรัฐมนตรี.
สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา. (2561). แผนอุดมศึกษาระยะยาว 20 ปี พ.ศ. 2561-2580. กรุงเทพฯ: สำนักนโยบายและแผนการอุดมศึกษา.
สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม. (2564). นโยบายการดำเนินงาน. กรุงเทพฯ: สำนักนโยบายและแผนกระทรวง.