ผลการใช้ชุดแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและสะกดคำเพื่อพัฒนาทักษะ การอ่านออกเสียงและสะกดคำภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาลวัดชุมพลคีรี จังหวัดตาก
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นงานวิจัยเชิงทดลอง มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาผลการเรียนรู้โดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะในการพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและสะกดคำภาษาอังกฤษที่ใช้ในการพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและสะกดคำภาษาอังกฤษ 2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านออกเสียงและการสะกดคำภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนโดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและสะกดคำภาษาอังกฤษและหลังเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 35 คน โรงเรียนเทศบาลวัดชุมพลคีรี อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ซึ่งได้มาจากวิธีการสุ่มตัวอย่างอย่างง่ายด้วยวิธีการจบสลากโดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและสะกดคำภาษาอังกฤษ 2) ชุดแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและสะกดคำภาษาอังกฤษ 3) แบบทดสอบทักษะการอ่านออกเสียง และการสะกดคำ จำนวน 20 ข้อ ทดสอบด้วยวิธีการอ่านออกเสียงทีละคำโดยที่คำที่กำหนดอยู่ในรูปแบบการสะกดแบบ CVC สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า t-test ผลการวิจัยพบว่า 1) ชุดแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและสะกดคำภาษาอังกฤษ สามารถพัฒนาความสามารถในการอ่านออกเสียงและสะกดคำภาษาอังกฤษของนักเรียนได้ 2) คะแนนหลังใช้ชุดแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและสะกดคำภาษาอังกฤษของนักเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนใช้ชุดแบบฝึกทักษะอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ .05
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
ข้อความที่ปรากฎอยู่ในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความ และข้อคิดเห็นนั้นไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2561). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2564). แนวทางการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (RT). กรุงเทพฯ: สำนักทดสอบทางการศึกษา.
ถิรวัฒน์ ตันทนิส. (2555). การศึกษาปัญหาการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษและกลวิธีการเรียนการออกเสียงภาษาอังกฤษของนักศึกษาสหวิทยาการชั้นปีที่ 3. วารสารภาษาและภาษาศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2(1): 81-102.
พิมภรณ์ พวงชื่น. (2562). การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบโฟนิกส์เพื่อส่งเสริมทักษะ การอ่านออกเสียงและสะกดคำสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1. วิทยานิพนธ์ (กศ.ม.). มหาวิทยาลัยนเรศวร.
รัตตินันท์ ทูลศิริ และคณะ. (2563). การใช้วิธีสอนแบบโฟนิกส์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการออกเสียงและความรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วารสารวิจัยมหาวิทยาลัยนเรศวร, 4(4): 185-196.
วราภรณ์ พรมอินทร์. (2561). การพัฒนาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้กลวิธีการอ่านแบบร่วมมือ Collaborative strategic reading. วิทยานิพนธ์ (กศ.ม.). มหาวิทยาลัยบูรพา.
วรินทร์ธร กิจธรรม. (2564). อิทธิพลของสีที่มีต่อการสร้างแบรนด์. วารสารการสื่อสารและการจัดการ นิด้า, 1(1):78-91.
Adam W. & Janusz A. (2011). The Acquisition of L2 Phonology. Salisbury: The MPG Books Group, Inc.
Ur, P. (2000). A Course in Language Teaching: Practice and Theory. Cambridge: Cambridge University Press.