การพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้กลวิธีการอ่านแบบร่วมมือผ่านนิทานสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้กลวิธีการอ่านแบบร่วมมือผ่านนิทาน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 14 คน ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนประชาบูรณะวิทยา อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้มาจากวิธีการสุ่มตัวอย่างอย่างง่ายโดยใช้วิธีการจับสลาก (Lottery) โดยใช้โรงเรียนเป็นหน่วยสุ่ม การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบทดลอง เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แผนการการจัดการเรียนรู้โดยใช้กลวิธีการอ่านแบบร่วมมือ 2) แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้กลวิธีการอ่านแบบร่วมมือ มีความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
ข้อความที่ปรากฎอยู่ในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความ และข้อคิดเห็นนั้นไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการ เรียนรู้ภาษาต่างประเทศพุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
จารุวรรณ วงษ์แก้ว. (2562). “การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้กลวิธีการอ่านแบบร่วมมือผ่านบทอ่านข้อมูลท้องถิ่นจังหวัดกาญจนบุรีสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6”. วิทยานิพนธ์ศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ทิศนา แขมมณี. (2560). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. (พิมพ์ครั้งที่ 21). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
รัตนาวลี ทรายมูล. (2553). “การใช้นิทานเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านความรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษและความตระหนักรู้ด้านจริยธรรมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1”. วิทยานิพนธ์. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สมุทร เซ็นเชาวนิช. (2542). เทคนิคการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ. (พิมพ์ครั้งที่ 6). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.
Brock, Mark N. (1990). The Case for Localized Literature in the ESL Classroom. English Teaching Forum, 28(3): 22-25.
Klingner & Vaughn. (1998). Using Collaborative Strategic Reading. Retrieved [19 November 2022] from https://www.researchgate.net/publication/237520752
Narindia Lisandy & Nuryansyah Adijaya. (2019). “The Effectiveness of Using Collaborative Strategic Reading (CSR) on Students’ Reading Comprehension of Narrative Text,” English Language in Focus (ELIF), 2(1): 53-58.
Sulistyani, et al. (2022). “Collaborative Strategic Reading (CSR) and Its Influence on Students’ Reading Comprehension”. Journal of English Education and Teaching (JEET). 7(1): 71-102.