การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความบทความภาษาจีนและความเข้าใจวัฒนธรรมจีนโดยการจัดการเรียนรู้แบบใช้คำถามเป็นฐานร่วมกับอินโฟกราฟิกแบบพีระมิด สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.ศึกษาพัฒนาการทักษะการอ่านจับใจความบทความภาษาจีน 2.ศึกษาพัฒนาด้านความเข้าใจวัฒนธรรมจีน 3.ศึกษาความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้แบบใช้คำถามเป็นฐานร่วมกับอินโฟกราฟิกแบบพีระมิด การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/8 โรงเรียนรัตนราษฎร์บำรุง จังหวัดราชบุรี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 1 ห้อง รวม 25 คน เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ 2) แบบทดสอบทักษะการอ่านจับใจความบทความภาษาจีน 3) แบบทดสอบความเข้าใจวัฒนธรรมจีน 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ และวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวแบบวัดซ้ำ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1.พัฒนาการทักษะการอ่านจับใจความบทความภาษาจีน โดยการจัดการเรียนรู้แบบใช้คำถามเป็นฐานร่วมกับอินโฟกราฟิกแบบพีระมิด สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 อยู่ในระดับที่สูงขึ้น 2. พัฒนาการด้านความเข้าใจวัฒนธรรมจีน โดยการจัดการเรียนรู้แบบใช้คำถามเป็นฐานร่วมกับอินโฟกราฟิกแบบพีระมิด สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 อยู่ในระดับที่สูงขึ้น 3. ความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้แบบใช้คำถามเป็นฐานร่วมกับอินโฟกราฟิกแบบพีระมิด สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
ข้อความที่ปรากฎอยู่ในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความ และข้อคิดเห็นนั้นไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
ธัญญ์พิชชา วัชรพรธนารัตน์. (2561). ความสามารถในการอ่านบทความข่าวจากนิตยสารภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์. วิชาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 26(50): 125–143.
ปัทมา ดีลิ่น. (2561). เทคนิคการจัดการเรียนรู้เพื่อแก้ปัญหาการเรียนการสอนวิชาวัฒนธรรมจีนในระดับอุดมศึกษา.อินทนิลทักษิณสาร,12(3): 101–125.
รัตนราษฎร์บำรุง (2566). ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของโรงเรียนรัตนราษฎร์บำรุง ปีการศึกษา 2566.ราชบุรี: โรงเรียนรัตนราษฎร์บำรุง.
พรพิมล รองชูเพ็ง. (2567). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการของเมอร์ด๊อคร่วมกับเทคนิคการใช้คำถามเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านภาษาจีนสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. มจร อุบลปริทรรศน์, 9(2): 801–814.
มาเรียม นิลพันธุ์. (2558). วิธีวิจัยทางการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 9). นครปฐม: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สถิตาภรณ์ ศรีหิรัญ. (2560). เทคนิคการอ่านเชิงวิชาการ. (พิมพ์ครั้งที่ 2). พิษณุโลก: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยนเรศวร.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2562). แผนยุทธศาสตร์การจัดการเรียนการสอนภาษาจีนในสถานศึกษา พ.ศ. 2562-2565. กรุงเทพฯ: สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา.
สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ. (2560). ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561–2580 (ฉบับย่อ). (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.
อัญชริกา จันจุฬา และสุภาพร จันทรคีรี. (2563). การพัฒนาสื่ออินโฟกราฟิกเพื่อสร้างการรับรู้และจดจำสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย จังหวัดยะลา. อัล-นูร บัณฑิตวิทยาลัย, 17(3): 1-13
แตงเถา แซ่เจี๋ย. (2565). การอ่านภาษาจีนเพื่อจับใจความสำคัญโดยใช้แผนผังมโนทัศน์แบบใยแมงมุม. บริหารธุรกิจและภาษา, 10(1): 1-13.
Campbell, D. T., & Stanley, J. C. (1963). Experimental and quasi-experimental designs for research. Chicako: Rand McNally & Company.