สัมมัปปธาน 4 ของผู้บริหารที่ส่งผลต่อการบริหารงานวิชาการ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 2
Main Article Content
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ของการวิจัยนี้คือ 1) เพื่อศึกษาสัมมัปปธาน 4 ของผู้บริหารสถานศึกษา 2) เพื่อศึกษาการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา และ 3) เพื่อศึกษาสัมมัปปธาน 4 ของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษา งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงพรรณนา ประชากรในการศึกษาครั้งนี้ คือ สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 2 จำนวน 147 โรงเรียน กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้ คือ สถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 2 จำนวน 108 โรงเรียน กลุ่มตัวอย่างผู้ให้ข้อมูลรวมทั้งหมด 324 คน ใช้วิธีการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือแบบสอบถาม เกี่ยวกับสัมมัปปธาน 4 ของผู้บริหารสถานศึกษา สถิติที่ใช้สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน การวิเคราะห์ค่าทางสถิติใช้โปรแกรมสำเร็จรูป ผลวิจัยพบว่า 1. สัมมัปปธาน 4 ของผู้บริหารสถานศึกษา มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยเรียงลำดับคะแนนเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ด้านปหานปธาน ด้านภาวนาปธาน ด้านอนุรักขนาปธาน และสังวรปธาน ตามลำดับ 2. การบริหารงานวิชาการในสถานศึกษา มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายด้านอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน ซึ่งเรียงลำดับคะแนนเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยคือ การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ การนิเทศการศึกษา การพัฒนาและใช้สื่อเทคโนโลยีทางการศึกษา การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในและมาตรฐานการศึกษา การวัดผล ประเมินผล และดำเนินการเทียบโอนผลการเรียน การวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพทางการศึกษาในสถานศึกษา และการพัฒนาและส่งเสริมให้มีแหล่งเรียนรู้ ตามลำดับ 3. สัมมัปปธาน 4 ของผู้บริหารสถานศึกษา ด้านภาวนาปธาน (X3) ด้านปหานปธาน (X2) และด้านสังวรปธาน (X1) ส่งผลต่อการบริหารงานวิชาการ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรีเขต 2 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 สามารถทำนายการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 2 (Ytot) ได้ร้อยละ 51.10
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
ข้อความที่ปรากฎอยู่ในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความ และข้อคิดเห็นนั้นไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
เอกสารอ้างอิง
บุญชม ศรีสะอาด. (2556). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
ปริยาภรณ์ ตั้งคุณานันต์. (2562). การบริหารงานวิชาการในสถานศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน. กรุงเทพมหานคร :หจก.มีน ซัพพลาย.
รุ่งชัชดาพร เวหะชาติ. (2566). การบริหารงานวิชาการเพื่อการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาในวิถีชีวิตใหม่. (พิมพ์ครั้งที่ 2). สงขลา: เทมการพิมพ์.
ลัดดาวัลย์ เพชรโรจน์ และคณะ. (2562). สถิติสำหรับการวิจัยและเทคนิคการใช้ SPSS. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์เจริญดีมั่นคงการพิมพ์.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรีเขต 2. (2564). รายงานผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2564. ราชบุรี: กลุ่มนโยบายและแผน.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรีเขต 2. (2565). รายงานผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2565. ราชบุรี: กลุ่มนโยบายและแผน.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579. กรุงเทพฯ: บริษัท พริกหวานกราฟฟิค จำกัด.
สุวิมล ติรกานันท์. (2557). ระเบียบวิธีการวิจัยทางสังคมศาสตร์: แนวทางสู่การปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พระมหาจตุรงค์ จิรฏฺฐิโต. (2567). วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง ของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล กับปธาน 4 ในพระพุทธศาสนา. วารสารพุทธพัฒนศาสตร์ศึกษา, 2(3): 31-49.
พระราชวรเมธี. (2562, 1 กรกฎาคม). “ธรรมปฏิบัติของผู้บริหารพันธุ์ A+” (Accountability). https://www.youtube.com/watch?v=h_PVsez2GaI&t=29s