การพัฒนาความสามารถในการให้เหตุผลเชิงพีชคณิตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ด้วยวิธีการแบบเปิดร่วมกับการประเมินเพื่อการเรียนรู้
Development of Algebraic Reasoning of 7th Grade Student Using Open Approach Together with Assessment for Learning
คำสำคัญ:
ความสามารถในการให้เหตุผลทางพีชคณิต; วิธีการแบบเปิด; การประเมินเพื่อการเรียนรู้บทคัดย่อ
การให้เหตุผลเชิงพีชคณิตมีความสำคัญต่อการพัฒนาการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ นักเรียนที่มีความสามารถในการให้เหตุผลเชิงพีชคณิตจะมีอุปสรรคในการเรียนรู้ทางคณิตศาสตร์น้อยกว่า การวิจัยนี้เป็นการวิจัยในชั้นเรียน (classroom research) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการใช้กิจกรรมการเรียนรู้โดยวิธีการแบบเปิดร่วมกับการประเมินเพื่อการเรียนรู้ที่มีต่อความสามารถในการให้เหตุผลเชิงพีชคณิต กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 20 คน วิเคราะห์การเปรียบเทียบความสามรถด้วยสถิติทดสอบวิลคอกซัน (Wilcoxon Signed Rank Test) วิเคราะห์พฤติกรรมและความคิดเห็นด้วยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis)
ผลการวิจัยพบว่า 1) ความสามารถในการให้เหตุผลเชิงพีชคณิตหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) วิธีการแบบเปิดกระตุ้นให้นักเรียนสร้างข้อสรุปเชิงเหตุผลอย่างเป็นธรรมชาติ โดยมีผลต่อกระบวนการคิดวิเคราะห์มากที่สุด การให้นักเรียนได้อภิปรายแลกเปลี่ยนและประเมินผลงานทำให้นักเรียนเห็นข้อแตกต่างของวิธีการคิดซึ่งเป็นการขยายฐานความรู้ความเข้าใจจากขั้นเรียนรู้ด้วยตนเอง 3) นักเรียนมีความคิดเห็นว่ากิจกรรมการเรียนรู้ส่งผลต่อกระบวนการคิด ความเข้าใจ และการสื่อสาร อีกทั้งทำให้เกิดความรู้สึกเชิงบวกต่อการเรียนรู้ ทั้งนี้ ควรเพิ่มระยะเวลาในขั้นการเรียนรู้ด้วยตนเอง การทบทวนทั้งหมดหลังเรียนครบทุกกิจกรรม และการเปลี่ยนกลุ่มในแต่ละกิจกรรม รวมทั้งอาจมีกิจกรรมให้ได้เล่นสนุกร่วมกันทุกกลุ่ม
Algebraic reasoning is important for developing mathematical reasoning. Students who are better at algebraic reasoning have fewer barriers to learning mathematics. This research is classroom research. The objectives were to study the effect of using open approach together with assessment for learning on algebraic reasoning ability. The target group was a group of 20 students who were studying in 7th grade enrolled in the 2nd semester of 2023 academic year at Sawanananwittaya 2 School. Ability comparisons were analyzed using Wilcoxon test statistics, behavior and opinions were analyzed using content analysis.
The results showed that: 1) algebraic reasoning, as the post-learning result was significantly higher than before the experiment at the .05 level of significance, 2) The open approach encourages students to naturally draw logical conclusions. It has the greatest impact on the analytical thinking process. Allowing students to discuss, exchange and evaluate their work allows students to see differences in thinking methods, which expands their knowledge base and understanding from the self-learning stage, and 3) Students are of the opinion that learning activities affect their thinking, understanding, and communication processes. It also creates positive feelings towards learning. In this regard, the time in the self-learning stage should be increased. All reviews after all activities have been completed. and changing groups in each activity There may also be activities for all groups to have fun together.
References
กษมา เกิดประสงค์. (2560). การพัฒนารูปแบบการจัดารเรียนรี่เสริมสร้างสมรรถนะทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. Veridian E-Journal,Silpakorn University, 10(3), 2121-2137.
ชนกนันท์ จันทร์อร่าม และอังคณา อ่อนธานี. (2561). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยวิธีการแบบเปิดเพื่อส่งเสริมความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. วารสารครุพิบูล, 6(1), 118 – 133.
พิมพ์ลักษณ์ มูลโพธิ์. (2560). การศึกษาการให้เหตุผลทางพีชคณิตในชั้นเรียนที่ใช้การศึกษาชั้นเรียนและวิธีการแบบเปิด. [วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยขอนแก่น
พรรณทิพา พรหมรักษ์. (2552). การพัฒนากระบวนการสอนโดยใช้กระบวนการวางนัยทั่วไปเพื่อส่งเสริมความสามารถในการให้เหตุผลทางพีชคณิตและการสื่อสารทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ไมตรี อินทร์ประสิทธิ์. (2555). การใช้วิธีการพัฒนากระบวนการคิดของนักเรียนแบบ Open Approach เพื่อส่งเสริมการพัฒนาวิชาชีพครูคณิตศาสตร์แบบ Lesson Study Approach. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
โศจิวัจน์ เสริฐศรี. (2553). การพัฒนากระบวนการเรียนการสอนโดยใช้แนวคิดเชิงสัมพันธ์และแนวคิดการเสริมต่อการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการให้เหตุผลเชิงพีชคณิตของนักเรียนประถมศึกษา. [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุชีรา จันครา, บุญเรียง ขจรศิลป์ และชานนท์ จันทรา. (2561). การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์โดยใช้กระบวนการ GPAS และการประเมินเพื่อการเรียนรู้ในรายวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดดอนเมือง (ทหารอากาศอุทิศ) สังกัดกรุงเทพมหานคร. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัย นเรศวร, 20(1), 196-210.
อัครพล พรมตรุษ. (2565). การพัฒนาความเข้าใจมโนทัศน์ทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1โดยใช้วิธีการแบบเปิด: การวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน. ศึกษาศาสตร์สารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 6(2), 61-75.
________. (2566). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยวิธีการแบบเปิดร่วมกับการประเมินเพื่อการเรียนรู้ที่เสริมสร้างสมรรถนะทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. [การค้นคว้าอิสระการศึกษามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยนเรศวร.
อัครพล พรมตรุษ และสายฝน วิบูลรังสรรค์. (2566). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยวิธีการแบบเปิดร่วมกับการประเมินเพื่อการเรียนรู้ที่เสริมสร้างสมรรถนะทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วารสารครุศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 51(4), 1/17-17/17.
Blanton, M. & Kaput, J. (2000). Generalizing and Progressively Formalizing in third-grade Mathematics Classroom: Conversations about Even and Odd Numbers. In Fernández, M. (Ed.). Proceedings of the Twenty-Second Annual Meeting of the North American Chapter of the Internatinal Group for the Psychology of Mathematics Education. (pp. 115-119). Columbus, OH: ERIC Clearinghouse.
________ . (2005). Characterizing a Classroom Practice that Promotes Algebraic Reasoning. Journal for Research in Mathematics Education, 36(5), 412-446.
________ . (2011). Functional Thinking as a Route Into Algebra in the Elementary Grades.
Canadas, M.C., Brizuela, B.M., & Blanton, M. (2016). Second graders articulating ideas about linear functional relationships. The Journal of Mathematical Behavior, 41, 87-103.
Carpenter, T.P. & Levi, L. (2000). Developing Conceptions of Algebraic Reasoning in the Primary Grades. Madison, WI: National Center for Improving Student Learning and Achievement in Mathematics and Science.
Kaput, J. J., Blanton, M. L., & Moreno, L. (2008). Algebra from a symbolization point of view. In J. J. Kaput, D. W. Carraher & M. L. Blanton (Eds.), Algebra in the early grades. (pp. 19-56). New York: Lawrence Erlbaum Ass.
Kieran, C. (1992). The learning and Teaching of School Algebra. In Grouws, D.A. (Ed.).The Handbook of Research on Mathematics Teaching and Learning. (pp. 390-419). New York: Macmillan.
Lins, R. & Kaput, J. (2004). The Early Development of Algebraic Reasoning: The Current State of the field. In Stacey, K., Chick, H. & Kendal, M. (Eds.). The Future of the Teaching and Learning of Algebra: The 12th ICMI Study. (pp. 47-70). Dordrecht, The Netherland: Kluwer Academic Publishers.
Twohill, A. (2013). Algebraic Reasoning in Primary School: Developing a Framework of Growth Points. Proceedings of the British Society for Research into Learning Mathematics, 33(June), 55–60.
Yackel, E. (1997). A Foundation for Algebraic Reasoning in the Early Grades. Teaching Children Mathematics, 3(February), 276-280.