การจัดการเรียนรู้แบบสตรีมที่เน้นการสร้างสรรค์เป็นฐานบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น : สภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการ
Development of a creative local wisdom-based STREAM : Current situation problems and needs
คำสำคัญ:
การจัดการเรียนรู้แบบสตรีม; การเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน; ภูมิปัญญาท้องถิ่น; ฟิสิกส์บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้แบบสตรีมที่เน้นการสร้างสรรค์เป็นฐานบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น และ 2) สร้างรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสตรีมที่เน้นการสร้างสรรค์เป็นฐานบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น ผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลแบบผสมวิธีด้วยการสำรวจและการสนทนากลุ่ม กลุ่มผู้ให้ข้อมูลในการสำรวจ คือ ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จังหวัดลำปาง 42 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ 95 คน ผู้เข้าร่วมการสนทนากลุ่ม คือ ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 10 คน และนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ 10 คน ผู้วิจัยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยสถิติบรรยายและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยวิธี การวิเคราะห์แก่นสาระ (Thematic Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า 1) ทั้งครูและนักเรียนตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาและการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการคิดสร้างสรรค์ เนื่องจากมีความน่าสนใจและเป็นประโยชน์ 2) ครูและนักเรียนมีความคิดเห็นว่า นักเรียนและโรงเรียนยังไม่พร้อมต่อการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาและการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการคิดสร้างสรรค์เท่าที่ควร 3) ครูและนักเรียนต้องการการจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาที่เน้นการคิดสร้างสรรค์ โดยนักเรียนและโรงเรียนต้องพัฒนาความพร้อมอย่างเพียงพอ จากนั้นผู้วิจัยสังเคราะห์ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้การเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสตรีมที่เน้นการสร้างสรรค์เป็นฐานบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น (Creative Local Wisdom-based STREAM: CLW-STREAM) ได้ 6 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 กระตุ้นแรงบันดาลใจการสร้างสรรค์ด้วยสถานการณ์ปัญหาที่พบในชีวิตจริง ขั้นตอนที่ 2 ร่วมกันระบุและทำความเข้าใจปัญหา ขั้นตอนที่ 3 ออกแบบการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ขั้นตอนที่ 4 ทดสอบ ประเมิน และปรับปรุง ขั้นตอนที่ 5 นำเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ และขั้นตอนที่ 6 ประยุกต์ใช้ความรู้
This research aims to 1) study the current situation, problems, and needs related to Creative Local Wisdom-based STREAM teaching model (CLW-STREAM), and 2) develop the CLW-STREAM teaching model. The researcher collected data using a mixed-methods approach, combining surveys and focus group discussions. The survey participants included 42 science teachers from secondary schools in Lampang Province under the jurisdiction of the Secondary Educational Service Area Office of Lampang-Lamphun, and 95 Grade 10 science-mathematics students. The focus group participants included 10 science teachers and 10 Grade 10 students.
The researcher analyzed the quantitative data and qualitative data by using descriptive statistics and thematic analysis, respectively.
The research findings revealed that: both teachers and students recognized the importance of STEM education and creativity-based learning as they found it interesting and beneficial. Teachers and students stated that neither students nor schools were fully prepared for STEM education and creativity-based learning. Both teachers and students expressed a desire for STEM education and creativity-based learning. Students wanted to develop their readiness for STEM and creative learning, while schools and teachers sought readiness for implementing STEM education. The researchers then analyzed relevant literature to draft a CLW-STREAM model, which consists of six steps: Stimulate creativity through local problem; Identify and understand problem; Creative design; Test, evaluate, and improve; Share creatively; and Apply knowledge.
References
จารีพร ผลมูล, เกริก ศักดิ์สุภาพ, และ สุนีย์ เหมะประสิทธิ์. (2558). การพัฒนาหน่วยการเรียนรู้บูรณาการแบบ STEAM สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กรณีศึกษา ชุมชนวังตะกอ จังหวัดชุมพร. In 34th The National Graduate Research Conference, 1567-1577.
ทิศนา แขมมณี. (2558). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ (พิมพ์ครั้งที่19). สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พีรญา สุขขีวรรณ. (2554). การจัดการเรียนรู้บนคลาวด์เลิร์นนิงแบบสตรีมเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนอาชีวศึกษา. วารสารวิชาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 11(2), 57-69.
ภูมินทร์ มีขันหมาก.(2552). ผลการจัดกิจกรรมนันทนาการที่เน้นการละเล่นของเด็กไทยที่มีต่อคุณค่าทางวัฒนธรรมของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดดอน กรุงเทพมหานคร. [วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2557). คู่มือเครือข่ายสะเต็มศึกษา. ศูนย์สะเต็มศึกษาแห่งชาติ.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2560-2579). บริษัท พริกหวานกราฟฟิค จำกัด.
สุวิทย์ มูลคำ. (2550). กลยุทธ์การสอนคิดสร้างสรรค์ (พิมพ์ครั้งที่ 4). ภาพพิมพ์.
อัญชลี ลัดดาแย้ม และต้องลักษณ์ บุญธรรม. (2563). ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สะเต็มศึกษาของครูสังกัดกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จังหวัดปทุมธานี. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, 14(1), 222-234.
Bloom, B., Englehart, M. D., Furst, E. J., Hill, W. H.& Krathwohl, D. R. (1956). Taxonomy of educational objectives, handbook I: Cognitive domain. New York: David Mckay.
Braun, V., & Clarke, V. (2019). Reflecting on reflexive thematic analysis. Qualitative Research in Sport, Exercise and Health, 11(4), 589–597. https://doi.org/10.1080/2159676X.2019.1628806
Kim, B. H., & Kim, J. (2016). Development and validation of evaluation indicators for teaching competency in STEAM education in Korea. Eurasia Journal of Mathematics, Science & Technology Education, 12(7), 1909-1924.
Land, M. H. (2013). Full STEAM ahead: The benefits of integrating the arts in to STEM. Procedia Computer Science, 20, 547-552.
Yakman, G. G. 2008. STEAM Education: An overview of creating a model of integrative. Retrieved from http//www.iteaconnect.org/Conference/PATT/PATT/Yakmanfinal19.