Development of a Project-Based Learning Model on the Website to Enhance the Basic Competencies of Programmers for Undergraduate Students.
Main Article Content
Abstract
The purposes of this research were: 1. To develop the project-based learning model on the
website, and 2. to evaluate the project-based learning model on the website to enhance the basic
competencies of programmers for undergraduate students by an in-depth interview. The target
group was 13 experts in educational technology using a purposive sampling technique. The research
instruments were questionnaires, formal interviews, and evaluation forms. Data analysis and
statistics used were data analysis from expert opinion questionnaires with in-depth interview.
The evaluation of the presentation format with the mean and standard deviation.
The research revealed that 1) the opinion of the appropriateness of the project-based
learning model on web development to enhance the basic competencies of the programmer for
undergraduate students at a very appropriate level ( x = 4.30, S.D. = 0.60), 2) opinions on the
consistency of the project-based learning model on website to enhance the basic competencies of
the programmer for undergraduate students at a very appropriate level ( x = 4.40, S.D. = 0.57).
Article Details
ข้อกำหนดเบื้องต้นที่ผู้นิพนธ์(ผู้ส่งบทความ) ควรทราบ
1. ผู้นิพนธ์ที่ประสงค์จะลงตีพิมพ์บทความกับวารสาร ตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 เป็นต้นไป ให้ใช้รูปแบบใหม่ (Template 2563) โดยสามารถดูตัวอย่างได้ที่เมนู GUIDELINES
2. จะตีพิมพ์และเผยแพร่ได้ ต้องผ่านการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review)
3. การประเมินบทความโดยผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) เป็นแบบ Double Blind
4. การอ้างอิงบทความใช้หลักเกณฑ์ APA (American Psychological Association) คลิก
5. บทความถูกปฏิเสธการตีพิมพ์ ไม่ผ่านการประเมิน ผู้นิพนธ์ขอยกเลิกเองหรือชำระเงินก่อนได้รับการอนุมัติ ทางวารสารไม่มีนโยบายการคืนเงิน
References
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร. (2559). แผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม.กรุงเทพมหานคร: ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ.
ทรงศักดิ์ สองสนิท, จรัญ แสนราช และ พิสุทธา อารีราษฎร์. (2552). การพัฒนาบทเรียนตามรูปแบบการเรียนการสอนแบบร่วมมือโดยใช้พื้นฐานการเรียนรู้แบบโครงงานผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์.วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 3(3), 179-188.
พรรณี สวนเพลง. (2550). การพัฒนาบุคลากร ICT ของประเทศไทย ปี พ.ศ.2548-2557. กรุงเทพมหานคร:คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต.
ลัดดา ภู่เกียรติ และคณะ. (2543). กิจกรรมการเรียนการสอนแบบโครงงาน. ใน พิมพ์พันธ์ เดชะคุปต์และคณะ (บ.ก.), นวัตกรรมการเรียนรู้สำหรับครูยุคปฏิรูปการศึกษา. กรุงเทพมหานคร:โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วราภรณ์ ภูปาทา. (2545). การเปรียบเทียบความเข้าใจมโนมติทางวิทยาศาสตร์และความคงทนในการเรียนรู้เรื่องบรรยากาศ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างการสอนโดยใช้โมเดลการสร้างความรู้จากพื้นฐานความรู้เดิมของผู้เรียนกับการสอนปกติ (วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต).มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ขอนแก่น.
วรุธน์ บัวงาม และคณะ. (2562). การพัฒนารูปแบบการประเมินคุณภาพหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิตบูรณาการกรอบทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 (วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต).มหาวิทยาลัยบูรพา, ชลบุรี.
สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ. (2542). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพุทธศักราช 2542.กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภา.สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2558). ทิศทางของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564). กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.
สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติและศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ.(2557). โครงการสำรวจข้อมูลตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ประจำปี 2557 และคาดการณ์ปี2558. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ.
อารีย์ มยังพงษ์. (2559). การพัฒนาสมรรถนะที่จำเป็นด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับบัณฑิตใหม่ก่อนเข้าสู่อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย (รายงานการวิจัย). กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร.
Cooper, C., and et al. (2008). Tourism principles and practice [4th ed.]. England: Prentice-Hall.McClelland, D. C. (1973). Testing for competence rather than for Intelligence. American Psychologist, 28(1), 1–14.
LENSCHOW, R. J. (1996). Industrial development and education. European Journal of Engineering Education, 21(2), 149-159.