การจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียนด้านจิตอาสา โดยใช้หลักพรหมวิหาร 4 ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย
คำสำคัญ:
การพัฒนา, ผู้เรียน, ด้านจิตอาสา, พรหมวิหาร 4บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพการจัดการเรียนรู้ เปรียบเทียบ และเสนอแนวทาง การจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และ วัฒนธรรม เพื่อพัฒนาผู้เรียนด้านจิตอาสา โดยใช้หลักพรหมวิหาร 4 ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 285 คน แบบเจาะจง การวิจัยครั้งนี้ รูปแบบผสานวิธี ได้แก่การวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าความถี่, ค่าร้อยละ, ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (F-test) แบบ (One Way Anova) เมื่อพบความแตกต่าง ทำการเปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ด้วยวิธีการของเซฟเฟ่ (Sheffe method)
ผลการวิจัยพบว่า
1) การจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และ วัฒนธรรม เพื่อพัฒนาผู้เรียนด้านจิตอาสา โดยใช้หลักพรหมวิหาร 4 ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก
2) ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็น การจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เพื่อพัฒนาผู้เรียนด้านจิตอาสา โดยใช้หลักพรหมวิหาร 4 ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย จำแนกตามระดับการศึกษา อาชีพผู้ปกครอง และค่าครองชีพ ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3) แนวทางในการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และ วัฒนธรรม เพื่อพัฒนาผู้เรียนด้านจิตอาสา โดยใช้หลักพรหมวิหาร 4 ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย พบว่า 1) จิตอาสาด้านเมตตา นักเรียนควรสร้างจิตอาสาและความรู้สึกเอ็นดู สงสารผู้อื่น ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นใครก็ตามในสถานศึกษาหรือในสังคม เพียงแค่รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ก็จะเกิดความคิดปรารถนาดีแก่ผู้นั้น การมีความเมตตาจะทำให้มีพลังดึงดูด และคนรอบข้างก็จะเอ็นดูรักใคร่ 2) จิตอาสาด้านกรุณา นักเรียนควรสร้างจิตอาสาเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ทุกข์ร้อน ให้รอดพ้นจากความทุกข์ โดยที่ไม่ต้องคิดว่าผู้นั้นจะเป็นคนดีหรือคนไม่ดี เพียงแค่นักเรียนมีจิตต้องการช่วยเหลือ ก็ถือเป็นบุญจากความกรุณา ทำให้นักเรียนมีความอิ่มเอิบใจ และมีความยินดีต่อความสุขของการพ้นจากทุกข์ของผู้นั้น 3) จิตอาสาด้านมุทิตา นักเรียนควรสร้างจิตอาสาด้วยการกระตุ้นตัวเองไม่ให้มีความอิจฉาริษยากัน หากเราวางตัวเองให้ ไร้ซึ่งการอิจฉาริษยา และคอยสนับสนุนให้กำลังใจรวมถึงยินดีกับสิ่งดีที่เกิดขึ้นกับผู้อื่น ก็นำไปสู่การส่งเสริม และสนับสนุน ความสุขหรือความดีนั้นๆ ให้คงอยู่ และเจริญยิ่งๆขึ้นไป 4) จิตอาสาด้านอุเบกขา นักเรียนควรวางใจนิ่งเฉยต่อการถูกทำร้ายและดูถูกดูหมิ่น ทั้งจากทางกาย วาจา ใจ ความสุขหรือความทุกข์ที่ตนหรือผู้อื่นได้รับเราควรอภัยให้กับความโกรธ ความริษยา นินทาที่ย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
เอกสารอ้างอิง
เจริญ ภักดีวนิช. (2010). การจัดการนักศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและแก้ไขวิกฤตการณ์ทางสังคม. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์พิมพ์ชวนพิม.
ดวงทิพย์ อันประสิทธิ์. (2555). รูปแบบของการขัดเกลาทางสังคมเพื่อเสริมสร้างจิตวิญญาณชุมชน: กรณีศึกษาชุมชนบางน้ำผึ้งอำเภอพระประแดงจังหวัดสมุทรปราการ. วิทยานิพนธ์ปริญญาโท. บัณฑิตวิทยาลัย: สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
พระครูสมุห์อนุกูล อนุวฑฺฒโน. (2555). ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการนำหลักพรหมวิหาร 4 ไปใช้ในการบริหารงานขององค์การบริหารส่วนตำบลม่วงงาม อำเภอ
สิงหนคร จังหวัดสงขลา. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระมหาธาตุ ปิยธมฺโม. (2560). การจัดการเรียนรู้สำหรับผู้เรียนอาสาสมัครในสังคมศึกษาการเรียนรู้ศาสนาและวัฒนธรรมโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายอำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย. วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

