การจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครู ของครูโรงเรียนศรีรัตนวิทยา อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ
คำสำคัญ:
หลักอิทธิบาท 4; ประสิทธิภาพการปฏิบัติงานตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครูบทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบการจัดการเรียนรู้รวมทั้งศึกษาแนวทางในการพัฒนา การจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมาตรฐานการปฏิบัติงานวิชาชีพครู ของครูโรงเรียนศรีรัตนวิทยา อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ การวิจัยนี้เป็นวิทยาการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพเป็นการวิจัยแบบผสานวิธี(mixed methods) โดยกลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาคือ ครูผู้สอนโรงเรียนศรีรัตนวิทยา อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ ปีการศึกษา 2563 จำนวน 80 คน และกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาจำนวน 1 คน ครูผู้สอน 9 คน สถิติที่ใช้ในการวิจัย ค่าความถี่ หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (One – way ANOVA) โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์วิเคราะห์ข้อมูลวิจัยโดยสังคมศาสตร์
ผลการวิจัยพบว่า
โดยภาพรวมมีระดับการปฏิบัติอยู่ในระดับมากทุกมาตรฐาน พิจารณารายมาตรฐานพบว่า ทุกด้านมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากโดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยดังนี้ มาตรฐานที่ 1 การปฏิบัติหน้าที่ครู ตามหลักอิทธิบาท 4, มาตรฐานที่ 2 การจัดการเรียนรู้ ตามหลักอิทธิบาท 4 และมาตรฐานที่ 3 ความสัมพันธ์กับผู้ปกครองและชุมชน ตามหลักอิทธิบาท 4 ตามลำดับ
การเปรียบเทียบระดับการปฏิบัติของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน โรงเรียนศรีรัตนวิทยา อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ จำแนกตามระดับการศึกษา โดยภาพรวมตามมาตรฐานทั้ง 3 มีระดับการปฏิบัติที่ไม่แตกต่างกัน จึงปฎิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้ และจำแนกตามประสบการณ์การทำงาน ทั้ง 3 มาตรฐาน โดยภาพรวมและรายมาตรฐาน มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกันจึงปฎิเสธ สมมติฐานที่ตั้งไว้
แนวทางการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครู ของครูโรงเรียนศรีรัตนวิทยา อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรี สะเกษ พบว่า ด้านฉันทะ คือ สร้างคุณค่าในตัวเองจากความภาคภูมิใจในการปฏิบัติงานวิชาชีพครู พอใจในการประกอบวิชาชีพครู, ด้านวิริยะ คือ เพียรพัฒนาความรู้ความสามารถของตนอยู่เสมอ ด้วยการศึกษาพัฒนารูปแบบการสอนที่เหมาะสมกับผู้เรียน จัดกิจกรรมและสร้างบรรยากาศ การเรียนรู้ ด้านจิตตะ คือ สร้างความตระหนักและเห็นความสำคัญของจิตสาธารณะและการเอาใจใส่ ตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ และด้านวิมังสา คือ ไตร่ตรองวิธีการถ่ายทอดความรู้และต้องไตร่ตรองหาข้อ บกพร่องในการปฏิบัติงานของตน แล้วนำไปปรับปรุงพัฒนาการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับมาตรฐาน ตัวชี้วัด และพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพ
เอกสารอ้างอิง
ณิชาภัทร เงินจัตุรัส. (2556). การประยุกต์หลักอิทธิบาท 4 ใช้ในการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 โรงเรียนวรรณรัตน์ศึกษา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น. ปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระอธิการโสภณ ปิยธมฺโม (กิ่งแก้ว). (2560). ประสิทธิผลการบริหารศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ตามหลักอิทธิบาท 4 สังกัดสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอำนาจเจริญ. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ไพทูล ทุมมาวัติ. (2559). การใช้หลักอิทธิบาท ๔ ในการปฏิบัติงานของผู้บริหารศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์. วารสารสถาบันวิจัยพิมลธรรม. 3(2), 131-140.
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ราชกิจจานุเบกษา. (2562). ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562. สืบค้นเมื่อ 1 ก.ค. 2562. จาก http://acad.plu.ac.th//files/---4--2562.pdf.
ลักขณา สิริวัฒน์. (2559). การประยุกต์ใช้อิทธิบาท 4 ในการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญของครูระดับประถศึกษา. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. 10 (2), 163-170.
ว.วชิรเมธี. (2551). คนสำราญงานสำเร็จ. (พิมพ์ครั้งที่ 14). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์อมรินทร์.
วิชญาภา เมธีวรฉัตร. (2554). การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามหลักอิทธิบาท 4: กรณีศึกษาโรงเรียนคีรีวงศ์วิทยาจังหวัดนครสวรรค์. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
สุทธิวรรณ ตันติรจนาวงศ์. (2560). ทิศทางการจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21. Veridian E-Journal. (10)2, 2843-2854.
Ven.Sri K. Dhammanada, (2005).Buddhism as a Religions, Kuala lumpur Malaysia: Buddhist Mahavihara Pubhishing.

