การบริหารงานบุคคลตามหลักพละ ๔ ของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต ๔
คำสำคัญ:
บุคลากร, พละ 4, การบริหาร, ผู้บริหารสถานศึกษา, เขตพื้นที่การศึกษาขอนแก่น 4บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพการพัฒนาการบริหารงานบุคคล ตามหลักพละ 4 ของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ขอนแก่น เขต 4 2) เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาคุณลักษณะของผู้บริหารตามหลักพละ 4 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 4 การวิจัยเชิงปริมาณเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถาม ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับ 0.98 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน จำนวน 264 คน สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิจัยเชิงคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูลเป็นแบบสัมภาษณ์ โดยกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 12 รูป/คน โดยการเลือกแบบเจาะจงเพื่อใช้สำหรับการตรวจสอบความสอดคล้องหรือเที่ยงตรง ผลการวิจัย พบว่า 1. สภาพคุณลักษณะของผู้บริหารตามหลักพละ 4 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 4 พบว่า ในภาพรวมและรายด้านมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก โดยด้านที่มีการปฏิบัติสูงสุด คือ ด้านคุณธรรม รองลงมา คือ ด้านความคุ้มค่า ด้านนิติธรรม ด้านความรับผิดชอบ ด้านความโปร่งใส และต่ำสุด คือ ด้านการมีส่วนร่วม 2. แนวทางคุณลักษณะของผู้บริหารตามหลักพละ 4 คือ 1) ผู้บริหารควรมุ่งเน้นการพัฒนานโยบายและกลยุทธ์ เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นในการพัฒนา ปรับปรุง หลักสูตร 2) ผู้บริหารมีบุคลิกภาพที่เอื้ออาทร การพร้อมที่จะช่วยเหลือและสนับสนุนผู้อื่นในหน่วยงาน ให้โอกาสการเข้าถึงข้อมูลและทรัพยากรทางวิชาการ 3) ผู้บริหารควรมีสัยทัศน์ต้องมีความชัดเจนและเป็นรูปธรรมเพื่อให้ทุกคนในองค์กรหรือกลุ่มสามารถเข้าใจได้ง่าย 4) ส่งเสริมการทำงานร่วมกันและการสร้างทีมที่มีความหลากหลายในการทำงานเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และพัฒนาทักษะการทำงานร่วมกัน 5) ผู้บริหารรักษาความซื่อสัตย์ในการสื่อสารและการแสดงออก 6) สนับสนุนการเรียนรู้และการพัฒนาความรู้ใหม่ๆ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง การฝึกฝนทักษะที่เฉพาะเจาะจงเพื่อเสริมสร้างบุคลิกภาพ
เอกสารอ้างอิง
บุญชม ศรีสะอาด. (2554). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาส์น.
ประกอบ กรรณสูตร. (2542). สถิติเพื่อการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพมหานคร: ด่านสุทธาการพิมพ์.
ปรียาพร วงศ์อนุตรโรจน์. (2551). การบริหารงานวิชาการ. กรุงเทพมหานคร: พิมพ์ดีจำกัด เพลท.
พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต). (2538). พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย.
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต). (2547). ธรรมนูญชีวิต. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์การศาสนาสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ.
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อุฏฐายี). (2509). สัปปุริสธรรม. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. (2557). ข้อมูลสารสนเทศทางการศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม-บาลีและแผนกสามัญศึกษา จังหวัดลำปาง. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ.
สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ. (2560). รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา.
สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์. (2559). แผนการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลในระยะ 3 ปี (2559–2561). กรุงเทพมหานคร: กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร.
สาคร ศรีระวรรณ. (2554). การบริหารจัดการการศาสนาศึกษาของสำนักศาสนาศึกษาวิเวกธรรมประสิทธิ์วิทยา วัดธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น [วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย].
สมเกียรติ เอี่ยมกลั่น. (2548). การศึกษาการใช้เวลาในการบริหารงานสถานศึกษาของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครราชสีมา [วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา].
Hoy, W. K., & Miskel, C. G. (1996). Educational administration: Theory, research, and practice. New York: McGraw–Hill Inc.
Ouchi, W. G. (1971). Organization and management. Eaglewood Cliffs, NJ: Prentice-Hall.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
หมวดหมู่
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Journal of Buddhist Education and Research (JBER)

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

