กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เรื่อง การเงิน ธนาคารและการกู้ยืม เพื่อพัฒนาทักษะความฉลาดรู้ทางการเงินของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนในกลุ่ม 1 ราชพฤกษ์ จังหวัดพิษณุโลก

ผู้แต่ง

  • จิรนันท์ ปานคาน มหาวิทยาลัยนเรศวร, พิษณุโลก, ประเทศไทย
  • วศิน ปัญญาวุธตระกูล มหาวิทยาลัยนเรศวร, พิษณุโลก, ประเทศไทย

คำสำคัญ:

กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน, ความฉลาดรู้ทางการเงิน, ความรู้ทางการเงิน, พฤติกรรมทางการเงิน, เจตคติทางการเงิน

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาของการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะความฉลาดรู้ทางการเงิน   ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนกลุ่ม 1 ราชพฤกษ์ จังหวัดพิษณุโลก และ 2) เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เรื่อง การเงิน ธนาคารและการกู้ยืม เพื่อพัฒนาทักษะความฉลาดรู้ทางการเงินของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5  กลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลัก คือ ครูผู้สอนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม จำนวน 8 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 8 คน จาก 8 โรงเรียนในกลุ่ม 1 ราชพฤกษ์ จังหวัดพิษณุโลก โดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) กลุ่มเป้าหมายในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนอนุบาลพิษณุโลก  ปีการศึกษา 2567 จำนวน 35 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) คู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง การเงิน ธนาคารและการกู้ยืม เพื่อพัฒนาทักษะความฉลาดรู้ทางการเงิน  ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) แนวคําถามในการสัมภาษณ์เชิงลึกโดยวิเคราะห์คุณภาพเชิงพรรณา ผลการวิจัยพบว่า สภาพปัจจุบันและปัญหาในการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาทักษะความฉลาดรู้ทางการเงินของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนกลุ่ม 1 ราชพฤกษ์ จังหวัดพิษณุโลก การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในปัจจุบันยังคงเน้นการสอนแบบบรรยาย ครูเป็นศูนย์กลาง นักเรียนมีบทบาทในการเรียนรู้น้อย ขาดการเชื่อมโยงกับสถานการณ์ทางการเงินในชีวิตจริง สื่อการเรียนรู้ขาดความหลากหลาย และขาดกิจกรรมที่ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา การประเมินผลยังเน้นการทดสอบมากกว่าการประเมินตามสภาพจริง  ดังนั้นผู้วิจัยจึงนําผลการศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาของการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะความฉลาดรู้ทางการเงิน  มาพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง การเงิน ธนาคารและการกู้ยืม เพื่อพัฒนาทักษะความฉลาดรู้ทางการเงิน ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ทำให้ผู้เรียนสามารถประยุกต์ใช้องค์ความรู้ทางการเงิน ธนาคาร และการกู้ยืมในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม มีทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์และการตัดสินใจที่ดีขึ้น มีพฤติกรรมการเรียนรู้ที่กระตือรือร้น กล้าแสดงออก และสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างสร้างสรรค์ สะท้อนถึงความสามารถในการพัฒนาทักษะความฉลาดรู้ทางการเงินในรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมอย่างมีประสิทธิภาพ

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560–2579. สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.

กมลชนก สกนธวัฒน์. (2562). การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ทางเศรษฐศาสตร์โดยใช้แนวคิดการเรียนรู้แบบฉากทัศน์เป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความฉลาดรู้การเงินของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]. CUIR. http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/69965

กมลชนก สกนธวัฒน์. (2562). พฤติกรรมทางการเงินของเยาวชนไทยและแนวทางแก้ไข. สำนักวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติ.

ธนาคารแห่งประเทศไทย. (2556ก). รายงานผลสำรวจทักษะทางการเงินของไทยปี 2556. https://www.bot.or.th/th/research-and-publications/fl-survey-report.html

ระพีพัฒน์ หาญโสภา. (2560). แนวทางการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความฉลาดรู้ทางการเงินในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐาน. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ไสว ฟักขาว. (2558). การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และความสำคัญของความฉลาดรู้ทางการเงิน. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Singhal, S., & Singh, A. (2020). Early financial education and its impact on financial behavior. International Journal of Economics and Finance, 35(2), 78–95.

Swiecka, B. (2020). Financial literacy and financial education: An overview of the research. Journal of Financial Studies, 28(3), 45–62.

Creswell, J. W., & Plano Clark, V. L. (2015). Designing and conducting mixed methods research (2nd ed.). SAGE Publications.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-07-01

รูปแบบการอ้างอิง

ปานคาน จ. ., & ปัญญาวุธตระกูล ว. . (2025). กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เรื่อง การเงิน ธนาคารและการกู้ยืม เพื่อพัฒนาทักษะความฉลาดรู้ทางการเงินของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนในกลุ่ม 1 ราชพฤกษ์ จังหวัดพิษณุโลก. Journal of Buddhist Education and Research (JBER), 11(3), 362–374. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jber/article/view/283982