การบริหารราชการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์

ผู้แต่ง

  • ทวีสันต์ วิชัยวงษ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
  • สัญญา เคณาภูมิ

คำสำคัญ:

การพัฒนาระบบราชการ, การบริหาร, ผลสัมฤทธิ์

บทคัดย่อ

        การบริหารราชการมีเป้าหมายที่สำคัญคือ การอำนายความสะดวกและการตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน เพื่อเกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชน เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจภาครัฐ โดยการใช้ทรัพยากรต่างๆ ให้เกิดประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าจากเป้าหมายดังกล่าวจึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาระบบราชการซึ่งการพัฒนาระบบราชการสามารถกระทำได้หลายด้าน เช่น ด้านการปรับเปลี่ยนกระบวนการและวิธีการทำงาน ด้านการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารราชการแผ่นดิน ด้านการปรับปรุงระบบการเงินและการงบประมาณด้านการสร้างระบบบริหารงานบุคคลและค่าตอบแทนใหม่ด้านการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์วัฒนธรรม

        บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาผลสัมฤทธิ์ในวิธีการหนึ่งของการพัฒนาระบบราชการโดยการปรับเปลี่ยนกระบวนการและวิธีการทำงานคือ การนำการบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์มาประยุกต์ใช้โดยการจัดทำแผนกลยุทธ์และแผนดำเนินงานอย่างเป็นระบบให้สอดคล้องและเชื่อมโยงกับนโยบายและเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ของรัฐบาล

        สรุปได้ว่า การบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์เกิดมาจากแนวคิดของการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ที่ให้ความสำคัญต่อความประหยัด (Economy) คือการใช้ต้นทุนหรือทรัพยากรการผลิตอย่างเหมาะสมและมีความคุ้มค่ามากที่สุด ความมีประสิทธิภาพ (Efficiency) คือการปฏิบัติงานให้ได้ผลงานในระดับที่สูงกว่าปัจจัยนำเข้า และความมีประสิทธิผล (Effectiveness) คือการปฏิบัติงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ การบริหารงานโดยมุ่งผลสัมฤทธิ์ (Results Base Management) การบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์เป็นวิธีการบริหารที่ถูกนำมาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์และวิธีการบริหารราชการจากเดิมที่ให้ความสำคัญทรัพยากรหรือปัจจัยนำเข้า (input) กระบวนการทำงานและอาศัยกฎระเบียบที่เคร่งครัดเป็นเครื่องมือในการดำเนินการ มาเป็นการมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับวัตถุประสงค์และผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานในแง่ของผลผลิต (Output) ผลลัพธ์ (Outcome) และความคุ้มค่าของเงิน (Value for money) รวมทั้งการพัฒนาคุณภาพและสร้างความพึงพอใจให้แก่ประชาชนซึ่งเป็นผู้รับบริการ โดยจะมีการประเมินผลการปฏิบัติงานด้วยตัวชี้วัดเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้กล่าวโดยสรุปการบริหารมุ่งผลสัมฤทธิ์คือ การบริหารโดยมุ่งเน้นที่ผลการปฏิบัติงานหรือผลสัมฤทธิ์เป็นหลักนั้นเอง

เอกสารอ้างอิง

กิตติ คุณสมบัติ. (2544). ทฤษฏีการทดสอบแบบดั้งเดิม. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นภดล ร่มโพธิ์. (2557). การวัดผลการปฏิบัติงานองค์กร. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัย
ธรรมศาสตร์.
ปิยะชัย จันทรวงศ์ไพศาล. (2554). การบริหารมุ่งผลสัมฤทธิ์ (RBM). กรุงเทพฯ: เอชอาร์ เซ็นเตอร์.
ทิพาวดี เมฆสวรรค์. (2543). การบริหารมุ่งผลสัมฤทธิ์. กรุงเทพฯ: สถาบันมาตรฐาน
สากลภาครัฐแห่งประเทศไทยสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน.
_______. (2545). ตัวชี้วัดผลงานตามแนวทางการบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์. กรุงเทพ ฯ: สถาบันมาตรฐานสากลภาครัฐแห่งประเทศไทยสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน.
ทศพร ศิริสัมพันธ์ อ้างถึงใน กิตติ คุณสมบัติ. (2543). การบริหารผลการดำเนินงาน(Performance Management) รวมบทความวิชาการ 100 ปีรัฐประศาสนศาสตร์ไทย. กรุงเทพฯ: ภาควิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วีระยุทธ ชาตะกาญจน์. (2547). การบริหารงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
________. (2552). เทคนิคการบริหารสำหรับนักบริหารการศึกษามืออาชีพ. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุพจน์ บุญวิเศษ. (2549). การบริหารมุ่งผลสัมฤทธิ์กับการประเมินผลการปฏิบัติงานในระบบราชการและเอกชน. กรุงเทพฯ: เวิลด์เทรดประเทศไทย.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-11-20

รูปแบบการอ้างอิง

วิชัยวงษ์ ท. ., & เคณาภูมิ ส. . (2019). การบริหารราชการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์. Journal of Buddhist Education and Research (JBER), 5(2), 34–51. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jber/article/view/241887

ฉบับ

ประเภทบทความ

Academic Article