ศึกษาการปฏิบัติตนตามมาตรฐานวิชาชีพของครูผู้สอน ที่ยึดหลักธรรมมรรคมีองค์ 8 กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ระดับมัธยมศึกษา ในสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครขอนแก่น
คำสำคัญ:
การปฏิบัติตน, มาตรฐานวิชาชีพครู, ธรรมมรรคมีองค์ 8, สังคมศึกษาบทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์ในการวิจัย ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาการปฏิบัติตนตามมาตรฐานวิชาชีพของครูผู้สอน ที่ยึดหลักธรรมมรรคมีองค์ 8 กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ระดับมัธยมศึกษา ในสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครขอนแก่น 2) เพื่อเปรียบ เทียบความคิดเห็นศึกษาการปฏิบัติตนตามมาตรฐานวิชาชีพของครูผู้สอน ที่ยึดหลักธรรมมรรคมีองค์ 8 3) เพื่อหาข้อเสนอแนะแนวทาง ศึกษาการปฏิบัติตนตามมาตรฐานวิชาชีพของครูผู้สอน ที่ยึดหลักธรรมมรรคมีองค์ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ระดับมัธยมศึกษา ในสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครขอนแก่น การวิจัยครั้งนี้ รูปแบบวิจัยแบบผสานวิธี (Mix Research) ได้แก่วิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative data) คือใช้แบบสอบถามครูผู้สอนจำนวน 165 คน และวิจัยเชิงคุณภาพ (Quantitative Research) กลุ่มเป้าหมายในการสัมภาษณ์ (ln-depth Interview) ผู้บริหารจำนวน 3 คน
ผลการวิจัย พบว่า
เพื่อศึกษาการปฏิบัติตนตามมาตรฐานวิชาชีพของครูผู้สอน ที่ยึดหลักธรรมมรรคมีองค์ 8 กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ระดับมัธยมศึกษา ในสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครขอนแก่นทั้ง 9 ด้าน โดยเรียงลำดับจากมากที่สุดไปหาน้อย ดังนี้ คือด้านที่ 1 มีวิ นัยในตนเอง พัฒนาตนเองด้านวิชาชีพ บุคลิกภาพ และวิสัยทัศน์ ให้ทันต่อวิทยาการ เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองอยู่เสมอ ตามสัมมาวาจา (เจรจาชอบ) และสัมมากัมมันตะ (ทำงานชอบ) และสัมมาอาชีวะ (เลี้ยงชีพชอบ) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา ด้านที่ 5 ประ พฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีทั้งทางกาย วาจา และ จิตใจตามหลักธรรมสัมมาวาจา (เจราชอบ)และสัมมากัมมันตะ (การทำงานชอบ) และสัมมาอาชีวะ (เลี้ยงชีพชอบ) อยู่ในระดับมาก ด้านที่ 4 ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ ทักษะและนิสัยที่ถูกต้องดีงามแก่ศิษย์ ตามหลักธรรมสัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ) และสัมมาสังกัปปะ (ความดำริชอบ) อยู่ในระดับมาก และลำดับน้อยที่สุด คือ ด้านที่ 8 ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันอย่างสร้างสรรค์ โดยยึดมั่นในระบบคุณธรรม ตามหลักธรสัมมาวายามะ (ความเพียรชอบ) และสัมมาสติ (ระลึกชอบ) และสัมมาสมาธิ (ตั้งใจชอบ)
การวิเคราะห์เปรียบเทียบการปฏิบัติตนของครูผู้สอนต่อศึกษาการปฏิบัติตนตามมาตรฐานวิชาชีพของครูผู้สอน ที่ยึดหลักธรรมมรรคมีองค์ 8 กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ระดับมัธยมศึกษา ในสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครขอนแก่น จำแนกตามระดับการศึกษา ระดับวิทยฐานะ และประสบการณ์ในการทำงาน แตกต่างกันอย่างมีนัย สำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้
ข้อเสนอแนะศึกษาการปฏิบัติตนตามมาตรฐานวิชาชีพของครูผู้สอนนั้น ควรส่งเสริมสนับสนุนพัฒนา และกระตุ้นให้ข้าราชการครูที่มีประสบการณ์น้อยให้ปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบข้าราชการ ควรจัดอบรมการทำวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองในสายงาน ควรส่งเสริมการอบรมครูเพื่อส่งเสริมเรื่องระเบียบวินัย และกฎ กติกาต่างๆ โดยประยุกต์ใช้หลัก ธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาไปใช้ในการปฏิบัติตนของครูผู้สอน
เอกสารอ้างอิง
คุณัชญา สมจิตร และ ผดุง พรมมูล, (2561). การปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณวิชาชีพของครูในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดชุมพร. 14(2), 17-31.
พระจินดา สุชาโต (พรมชาลี). (2561). สภาพการจัดการเรียนรู้สังคมศึกษา สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ด้วยหลักพรหมวิหาร 4 ของครูในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24 จังหวัดกาฬสินธุ์. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระประนม ฐิตมโน และคณะ. (2562). การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนตามหลักไตรสิกขาของ โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา วัดประชานิยม จังหวัดกาฬสินธุ์. วารสารสถาบันพิมลธรรม. 6(2), 37-48.
วิจิตร คดเกี้ยว และคณะ. (2560). การศึกษาเชิงวิเคราะห์มรรคมีองค์ 8 ในพุทธปรัชญาเถรวาทกับภาวะสมดุลของระบบนิเวศ. วารสารบัณฑิตศึกษาปริทรรศน์. 13(3), 82-95.
อัญชุลี อุดรกิจ และพงษ์ธร สิงห์พันธ์. (2559). สภาพและปัญหาในการปฏิบัติงานของครูผู้ช่วยในโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28. วารสารบริหารการศึกษาบัวบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. 16(1), 279-292.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W., (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement. 30(3), 707-710.

