การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือในการส่งเสริมความมีจิตอาสาของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านโพธิ์กลาง) จังหวัดอุบลราชธานี

ผู้แต่ง

  • พระอธิการสุทธิศักดิ์ สมฺปณฺณเมธี (คงมาก) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น
  • ปาณจิตร สุกุมาลย์

คำสำคัญ:

การจัดกิจกรรม,การเรียนรู้,การส่งเสริม,จิตอาสา

บทคัดย่อ

               การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพ เปรียบเทียบ และเสนอแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือในการส่งเสริมความมีจิตอาสาของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย  โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านโพธิ์กลาง) จังหวัดอุบลราชธานี กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนจำนวน 130 คน จากนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านโพธิ์กลาง) จังหวัดอุบลราชธานี การกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างเทียบจากตารางสำเร็จรูป  Krejcie & Mogan โดยการสุ่มแบบง่าย   เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทำสอบด้วยค่าที ( t-test  independent  Samples) และทดสอบเอฟ (F-test )

                ผลการวิจัยพบว่า

  1. สภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือในการส่งเสริมความมีจิตอาสาของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านโพธิ์กลาง) จังหวัดอุบลราชธานี พบว่าโดยภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เรียงจากมากไปหาน้อย 1) ด้านความสามัคคี 2) ด้านความมีน้ำใจ 3) ด้านการทำงานเป็นทีม 4) ด้านความรับผิดชอบ และ 5) ด้านความเสีย สละ ตามลำดับ
  2. ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของนักเรียนต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือในการส่งเสริมความมีจิตอาสาของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านโพธิ์กลาง) จังหวัดอุบลราชธานี จำแนกตามเพศ ระดับชั้น และเกรดเฉลี่ย ซึ่งภาพรวมรายด้านทั้ง 5 ด้าน มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ .05 จึงปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้
  3. 3. แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือในการส่งเสริมความมีจิตอาสาของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านโพธิ์กลาง) จังหวัดอุบลราชธานี พบว่า ครูผู้สอนควรส่งเสริม ให้นักเรียนมีความเอื้ออาทรเอาใจใส่คนรอบข้างอย่างสม่ำเสมอ มีจิตอาสาที่จะทำงานเพื่อให้ผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทนอย่างเต็มที่เต็มกำลังที่ตนเองสามารถช่วยได้ ให้ความเคารพปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของสถานศึกษาอย่างเคร่งครัด ให้ความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจกันปฏิบัติกิจกรรมด้วยความสามัคคีครูผู้สอนมีแนวทางการส่งเสริมสนับสนุนในการทำกิจกรรมจิตอาสาเพื่อพัฒนาผู้เรียนอย่างชัดเจนตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ซึ่งผลการวิจัยในครั้งนี้ยังได้สอดคล้องกับโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนมีความ สมัครสมานสามัคคี มีความสุขและประเทศชาติมีความมั่นคงอย่างยั่งยืน สืบต่อไป

เอกสารอ้างอิง

กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. (2544). การสังเคราะห์รูปแบบการพัฒนาศักยภาพของเด็กไทย ด้านความรับผิดชอบและวินัยในตนเอง. กรุงเทพฯ: กองวิจัยทางการศึกษา.

พระกรวัฒน์ สิริปญฺโญ (สืบสวน). (2561). การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนด้านจิตอาสา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 25 (สาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา), พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระราชสุธี (โสภณ โสภณจิตโต). (2562). ความสามัคคี.[ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 13 กรกฎาคม 2562. จาก http://www. Matichon.co.th/Khaosod/Vi...MHdOeTB3T1E9PO.

วิภาพร มาพบสุข. มนุษย์สัมพันธ์. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น. 2543.

ศิริพงษ์ ฐานมั่น, (2560). จิตอาสาประตูสู่ CSR ที่ยั่งยืน. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์). 7(1), 169-184.

หน่วยราชการในพระองค์. (2560). หลักสูตรการฝึกอบรมจิตอาสา 904. สืบค้นเมื่อ 10 กันยายน 2562. จาก https://www.royaloffice.th/.

อังสนา อัครพิศาล และคณะ. (2556). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับระดับจิตอาสาของนักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. รายงานวิจัย. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-06-30

รูปแบบการอ้างอิง

สมฺปณฺณเมธี (คงมาก) พ. . ., & สุกุมาลย์ ป. . (2020). การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือในการส่งเสริมความมีจิตอาสาของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านโพธิ์กลาง) จังหวัดอุบลราชธานี. Journal of Buddhist Education and Research (JBER), 6(1), 190–202. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jber/article/view/242749

ฉบับ

ประเภทบทความ

Research Article