การบูรณาการจัดการเรียนรู้นวัตวิถีเชิงพุทธ : กรณีศึกษาหัตถกรรมผ้าย้อมคราม ของชุมชนบ้านตาด ตำบลแพต อำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร
คำสำคัญ:
การบูรณาการจัดการเรียนรู้, นวัตวิถีเชิงพุทธ, หัตถกรรมผ้าย้อมครามบทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพ การบูรณาการจัดการเรียนรู้นวัตวิถีเชิงพุทธ และแนวทางการบูรณาการจัดการเรียนรู้นวัตวิถีเชิงพุทธ : กรณีศึกษาหัตถกรรมผ้าย้อมคราม ของชุมชนบ้านตาด ตำบลแพต อำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ปราชญ์ชาวบ้าน จำนวน 5 ท่าน กลุ่มทอผ้าย้อมคราม จำนวน 10 ท่าน ครูโรงเรียนบ้านตาด จำนวน 3 ท่าน และพระสงฆ์วัดป่าบ้านตาด จำนวน 2 รูป รวมเป็นจำวน 20 ท่าน/รูป ใช้แบบสัมภาษณ์แบบวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีเชิงพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพการทำผ้าย้อมครามสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ชุมชนบ้านตาด เดิมย้ายมาจากฝั่งลาว มาอยู่อำเภออากาศอำนวย อำเภอคำตากล้า และอำเภอวานรนิวาส มีวิถีชีวิตแบบชาวไร่ ชาวนาและชาวสวน ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ในสมัยก่อนทำผ้าย้อมครามใช้เอง เป็นการสืบทอดจากภูมิปัญญาคนรุ่นเก่า คนในหมู่บ้านทำนา ทำไร่ ทำสวน และมีการปลูกต้นครามเพื่อทำผ้าคราม เมื่อคนภายนอกรู้จัก สามารถสร้างรายได้แก่ชุมชน
2. การบูรณาการจัดการเรียนรู้นวัตวิถีเชิงพุทธ ควรนำหลักธรรมมรรคมีองค์ 8 มาใช้ในการบูรณาการ เพราะเป็นหลักธรรมที่ใช้ในการทำงาน สร้างความซื่อสัตย์ต่อตนเอง เรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรมประเพณี คุณธรรม จริยธรรมของชุมชนกับหัตถกรรมผ้าย้อมคราม จัดการความร่วมมือระหว่าง บ้าน วัด โรงเรียน แหล่งสนับสนุนและแหล่งความรู้จากภายนอก ควรมีหลักในการทำงานร่วมกัน หลักในการยึดเหนี่ยวจิตใจ หลักในการผลิต และบริหารกลุ่มให้เกิดความยั่งยืน
3. แนวทางการบูรณาการจัดการเรียนรู้นวัตวิถีเชิงพุทธ : กรณีศึกษาหัตถกรรมผ้าย้อมคราม เกิดจากความร่วมมือระหว่าง บ้าน วัด โรงเรียน โดยนำหลักธรรมมรรคมีองค์ 8 เป็นหลักธรรมที่ใช้ในการบูรณาการทำผ้าย้อมคราม มีความพอใจใฝ่รู้ตั้งใจทำ คิดบูรณาการให้เกิดสิ่งใหม่ๆ นำมาพิจารณาเพื่อให้เกิดความสำเร็จ หลักในการยึดเหนี่ยวจิตใจต่อผู้มาเยือนคือ การเอื้อเฟื้อแบ่งปัน มีน้ำใจไมตรี พูดจาอ่อนหวาน จริงใจ รู้จักกาลเทศะ ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ให้เกิดความภาคภูมิใจ ตั้งใจทำงาน มีความสม่ำเสมอในการทำงาน ขยันและอดทนต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ยิ้มแย้มแจ่มใสต่อผู้มาเยือนในชุมชน
เอกสารอ้างอิง
ชูชีพ เอื้อการณ์และคณะ. (2557). วิจัยแนวทางการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยเพื่อการแข่งขันระดับโลก. ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์.
ดนัย ชาทิพฮด. (2558). ผ้าย้อมคราม: การทำวัฒนธรรมให้กลายเป็นสินค้าในกระแสโลกาภิวัตน์. วารสารไทยศึกษา. 10(2), 87-116.
ธัญญธร ศรีวิเชียร. (2560). กลยุทธ์การตลาดบริการสาหรับธุรกิจร้านผ้าพื้นเมืองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
พระสมุห์พรเลิศ วิสุทฺธสีโล. (2557). การศึกษามรรคมีองค์ 8 เพื่อการบรรลุธรรมในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต). (2550). พระพุทธศาสนาพัฒนาคนและสังคม. กรุงเทพฯ: กรมการปกครอง.
สุทธิพงษ์ พูลเพิ่ม และจุรีวัลย์ ภักดีวุฒิ. (2558). กลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าไหมลายสาเกตบ้านหวายหลึมสู่ตลาดอาเซียน. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
สำนักส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย. (2562). สืบค้นเมื่อ 29 สิงหาคม 2562.จาก https://cep.cdd.go.th/otop.
อนุรัตน์ สายทอง. (2555). ไหมย้อมครามธรรมชาติ ในวารสารวิทยาศาสตร์ มข. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น,
Branda Neidigh. (2001). An Analysis of E-commerce Integration in the Textile. Industry. Retrieved May 5, 2019. from http://www.Ecorridors.

