การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ด็อค สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
คำสำคัญ:
แบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ; วิธีการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA)บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจสำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยมีจุดประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนวังทองวิทยา ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 85/85 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนวังทองวิทยา โดยดำเนินการวิจัยตามกระบวนการของงานวิจัยและพัฒนา ซึ่งทำการทดลองกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนวังทองวิทยา อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย จำนวน 15 คน ซึ่งได้มาโดยการคัดเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจจากสูตร (E1/E2) และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและหลังเรียนโดยใช้สถิติการทดสอบค่าทีแบบอิสระ
ผลการวิจัยพบว่า
- แบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนแบบบูรณาการของ เมอร์ด็อค (MIA) มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เป็น 89.79/87.50 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 85/85 ที่กำหนดไว้
- ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ. ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพ. กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ ความหมายของสมรรถนะทักษะและทักษะ พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. พ.ศ.(2552).
เกรียงไกร วงศ์จันทร์เสือ. (2554). การพัฒนาความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA). วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยนเรศวร.
ณัฎฐณิกานต์ ทองโคตร. (2559). การพัฒนาความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) โดยใช้แบบฝึกทักษะ. โรงเรียนนายางกลักพิทยาคม. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
ดุษฎี นาหาร. (2553). การพัฒนากิจกรรมการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความคงทนในการเรียนรู้สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยวิธีการสอนแบบเอส คิว สาม อาร์. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ประทุมวรรณ จันทร์ศรี. (2558). การเปรียบเทียบความสามารถด้านการอ่านเพื่อความเข้าใจความคงทนในการเรียนรู้และแรงจูงใจในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้สื่อแบบอรรถฐาน ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ (MIA) และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ SQ4R. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
วันเพ็ญ วัฒฐานะ. (2557). การจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการอ่านแบบ SQ3R เพื่อพัฒนาความเข้าใจในการอ่านและศึกษาพฤติกรรมการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. โรงเรียนวัดตะปอนน้อย จังหวัดจันทบุรี. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. มหาวิทยาลัยบูรพา.
อำภา วิฬุวัน. (2558). การพัฒนาความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) โรงเรียนบ้านแขโพนเมือง. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
Brinton, D., M.A. Snow and M.B. Wesche. (1997). Content-Based, Second Language Instruction. New York: Newbury House Publishers.
Hammer, Jeremy. (1990). The Practice of English Language Teaching. London: Longman Group Ltd.
Murdoch, George S. (1986). A More Integrated Approach to the Teaching of Reading. English Teaching Forum. 34(1) : 9-15.
Nixon, Ursula. (1995). Developing Appropriate Materials. Forum. 33 : 12.
Nunan, D. (1995). Language Teaching Methodology. Hemel Hempstead: Phoenix ELT.
Tomlinson, Brain. (1998). Material Development in Language Teaching. Cambridge University Press.

