ผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางต่อความสามารถในการการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
คำสำคัญ:
วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง; ทักษะการฟังภาษาอังกฤษ; ทักษะการพูดภาษาอังกฤษบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ของการสอนโดยใช้วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางที่มีผลต่อความสามารถในการการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ประชากรที่ใช้ในงานวิจัยนี้คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนประชาชนอุทิศจำนวน 22 คนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 การวิจัยใช้การออกแบบเชิงพรรณนาเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางต่อความสามารถในการการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ และแบบสัมภาษณ์ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนรู้โดยจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางต่อความสามารถในการการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ ผลการวิจัยวิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าเฉลี่ยมาตรฐาน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าร้อยละ
ผลการวิจัย พบว่า
- ผลสัมฤทธิ์หลังเรียนของการสอนโดยใช้วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางที่มีผลต่อความสามารถในการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
- ผลการสัมภาษณ์ระบุว่านักเรียนรู้สึกพึงพอใจต่อการสอนโดยใช้วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง โดยสามารถแยกเป็นสองประเด็นคือ ด้านการจัดการเรียนรู้ พบว่าผู้เรียนมีความคิดเห็นว่าการจัดเรียนการเป็นการจัดการเรียนรู้ที่มีเนื้อหาเหมาะสมกับความสนใจของตนเอง จึงรูสึกสนุกสนานขณะเรียนรู้ และด้านครูผู้สอน พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใน เนื่องจากครูผู้สอนพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลืออยู่เสมอ อีกทั้งครูยังมีวิธีการเสริมแรงและให้กำลังใจที่สามารถกระตุ้นผู้เรียนได้ดีอีกด้วย
เอกสารอ้างอิง
กรมวิชาการ. (2551). เอกสารประกอบหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 คู่มือการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ. กรุงเทพฯ : องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
ทัศนา ประสานตรี, มนตรี อนันตรักษ์ และ รุ่งทิวา อุ่นเจริญ. (2557). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ TPR และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ B-SLIM. วารสารมหาวิทยาลัยนครพนม, 4(3), 85-93.
ภัทรวดี ปันติ. (2558). ผลการใช้วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางที่มีต่อทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษและการกล้าแสดงออกของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนกมล-เรียม สุโกศล (บ้านผาใต้). การค้นคว้าอิสระครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่.
วันทนี ไพรินทร์. (2547). การพัฒนาความสามารถในการฟังและการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนคลองทวีวัฒนา ที่ได้รับการสอนโดยวิธีสอนแบบการตอบสนองด้วยท่าทาง. สารนิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
วารุณี ศิริและอภิราดี จันทร์แสง. (2560). การพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบลตอบสนองด้วยท่าทาง (TPR) ที่มีผลต่อทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1. การค้นคว้าอิสระการศึกษามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สถาบันทดสอบการศึกษาแห่งชาติ. (2562). รายงานผลการสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปี การศึกษา 2562. สืบค้นเมื่อ 9 สิงหาคม 2563. จาก http://www.niets.or.th.
สุนารี จิตรรัมย์ และ สิทธิพล อาจอินทร์. (2561). การพัฒนาความสามารถในการฟังภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบตอบสนองด้วยท่าทาง. Journal of Education Graduate Studies Research, KKU. 12(1), 205-213.
อนงค์ เชื้อนนท์. (2555). เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษ. สืบค้นเมื่อ 8 สิงหาคม 2563. จาก https://www.moe.go.th/moe/
A., Ratminingsih, M., Marjohan, A. Prananti. (2019). The Study of TPR Implementation in Teaching Listening and Speaking for Elementary School at SD Laboratorium Undiksha Singaraja in the Academic Year 2013/2014. Jurnal Pendidikan Bahasa Inggris Undiksha, 7(2), 1-10.
Asher, J. (1979). Learning Another Language Through Actions. The Complete Teacher’s Guidebook. California: Sky Oaks Productions.
Ayu Santika, Mimin Aminah and Jufrianto Sibarani. (2020). The Effect of Total Physical Response (TPR) Teaching Method Towards Students’ Speaking Skill. Prosiding Seminar Nasional Pendidikan Universitas Subang (SENDINUSA), 15-20.
Dwi Suryaningrum. (2017). The Effect of Total Physical Response Technique on the Eleventh Graders’ Speaking Ability at SMA PSKD 7 Depok. JET Journal of English Teaching, 3(1), 55-64.
Education First (EF). (2019). The world's largest ranking of countries and regions by English skills. Retrieved November 27, 2019 from http://www.ef.co.th.
Morse, N. C. (1995). Satisfication in The White Collar job. Michigab: University of Michigan Press.
Pham Vu Phi Ho Ngo Thi Cam Anh. (2018). The Effect of Using Total Physical Response (TPR) on EFL Young Learners’ Vocabulary and Speaking Fluency. KỶ YẾU HỘI THẢO KHOA HỌC, 128-137.
Phillips, S. (2002). กิจกรรมภาษาอังกฤษกับเด็ก (young learners). เตือนใจ เฉลิมกิจ แปล. กรุงเทพฯ: หน้าต่างสู่โลกกว้าง.
Sühendan Er. (2013). Using Total Physical Response Method in Early Childhood Foreign Language Teaching Environments. Procedia - Social and Behavioral Sciences, 93(3), 1766-1768.

