การมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามทัศนะของประธานคณะกรรมการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดตรัง

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามทัศนะของประธานคณะกรรมการสถานศึกษา 2) เปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามทัศนะของประธานคณะกรรมการสถานศึกษา ตามตัวแปร เพศ อายุ ระดับการศึกษา ระยะเวลาในการเป็นคณะกรรมการสถานศึกษา และต้นสังกัดโรงเรียน 3) ศึกษาปัญหาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามทัศนะของประธานคณะกรรมการสถานศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ ได้แก่ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา จำนวน 159 คน ซึ่งได้กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางสำเร็จรูปของเครสซี่และมอร์แกน แล้วสุ่มแบบแบ่งชั้นตามต้นสังกัดโรงเรียน สุ่มตัวอย่างอย่างง่ายโดยการจับฉลาก เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม มีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับของลิเคิร์ท มีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม อยู่ที่ .92 โดยการหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟา สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบความแปรปรวนใช้ One-Way ANOVA ทดสอบรายคู่ ใช้ Fisher’s Least - Significant Difference และวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัย พบว่า 1) การมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามทัศนะของประธานคณะกรรมการสถานศึกษาโดยรวมอยู่ในระดับมาก 2) ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา พบว่าตัวแปร เพศ โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และตัวแปรระดับการศึกษา โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนตัวแปร อายุ ระยะเวลาการเป็นคณะกรรมการสถานศึกษา และต้นสังกัดโรงเรียน โดยรวมไม่แตกต่างกัน และ 3) ปัญหาและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียน พบว่าไม่เข้าใจเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของการเป็นคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ดังนั้น โรงเรียนควรมีการประชุม สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน