“ศาสนา” ถือเป็นองค์ความรู้และความเชื่อของมนุษย์ที่สะท้อนให้เห็นถึงจุดกำเนิด การตั้งอยู่ และการสิ้นสุดของ “ปรากฏการณ์ทางสังคม” และ “สภาพ” ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างมีพลวัต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภายใต้บริบทสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID - 19) ศาสนายังคงเป็นกระจกสะท้อนให้เห็นถึงสังสารวัฏที่ย่อมมีการเกิด แก่ เจ็บ และล้มตาย ควบคู่ไปกับการทำหน้าที่เป็นที่พึ่งทางจิตใจให้กับมนุษย์ที่ต่างแสวงหาทางหลุดพ้นจากวิกฤตการณ์ดังกล่าว เช่นเดียวกับเนื้อหาของวารสารไทยคดีศึกษา ปีที่ 18 ฉบับที่ 2 เล่มนี้ นับเป็นเล่มหนึ่งที่ทำหน้าที่สะท้อนปรากฏการณ์ทางสังคมและสภาพต่าง ๆ อย่างมีพลวัตบนพื้นฐานการตีความและศึกษาเปรียบเทียบปรากฏการณ์ในรูปแบบต่าง ๆ ที่โดดเด่นแตกต่างกันไป

            บทความแรก นัยความหมายของบุญในพระพุทธศาสนาและปรากฏการณ์ทางสังคม เขียนโดย เทียมจิตร์ พ่วงสมจิตร์ ความน่าสนใจของบทความดังกล่าวเป็นความพยายามอธิบายถึงนัยความหมายของบุญ ซึ่งเป็นกรรมอย่างหนึ่งในพระพุทธศาสนาจัดอยู่ในฝ่ายกุศลกรรมผ่านการตีความที่หลากหลาย ตั้งแต่ในระดับของภาษาซึ่งเป็นการตีความความหมายตามพยัญชนะหรือในระดับโลกิยะหรือทางโลก หมายถึง ความสุข เครื่องชำระสันดาน ความดี ความประพฤติดี เป็นกุศลกรรม ฯลฯ ถัดมาเป็นการตีความของบุญในระดับนัยความหมายหรือระดับโลกุตระหรือในทางธรรมนั้น บุญ หมายถึง การสละออก ปัญญา บรมสุข และนิพพาน อย่างไรก็ตาม ความหมายของบุญในฐานะของความสุขถือเป็นความหมายเดียวที่ครอบคลุมความหมายทั้งในระดับของโลกิยะและโลกุตระ ทั้งนี้ บุญจะมีความหมายอยู่ในระดับใดขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้บำเพ็ญบุญกิริยาว่าประสงค์ในสิ่งที่เป็นโลกิยะหรือโลกุตระ ไปจนถึงการตีความผ่านปรากฏการณ์การทำบุญที่มุ่งเน้นการทำบุญด้วยวิธีการทำทานมากกว่าการบำเพ็ญบุญกิริยาให้ถึงพร้อมด้วยทาน ศีล ภาวนา โดยมีเจตนาทำบุญเพื่อหวังในความสุข ความสำเร็จ และสมบัติต่าง ๆ มากกว่าการสละออกในสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น อันเป็นความน่าสนใจและเท่าทันปรากฏการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน ของบทความนี้

            ถัดมาเป็นบทความ ปีขึ้นครองราชย์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7: ความสัมพันธ์กับการตีความภูตสังขยา ความเชื่อพระเวท และบริบทการเมือง เขียนโดย นิพัทธ์ แย้มเดช จิรพัฒน์ ประพันธ์วิทยา และสมบัติ มั่งมีสุขศิริ ที่ต้องการชี้ให้เห็นว่า ปีขึ้นครองราชย์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งราชอาณาจักรกัมพูชาในจารึกกลุ่มอโรคยศาลาและจารึกปราสาทพิมานอากาศที่ประกอบไปด้วยคำศัพท์ภูตสังขยา คือ พระเวท - ท้องฟ้า -     เลขหนึ่ง - พระจันทร์ นั้นเกิดการตีความที่แตกต่างหลากหลายออกไปจากนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญกลุ่มต่าง ๆ โดยเฉพาะการตีความถึง “พระเวท” ที่ผู้เขียนพบว่าไม่น่าจะสามารถแทนด้วยเลข 3 หากแต่ควรแทนด้วยเลข 4 ให้สอดคล้องกับแบบแผนภูตสังขยาและเป็นไปตามคติความเชื่อของชาวอินเดียโบราณที่มองว่าพราหมณ์มองเห็นพระเวททั้ง 4 ได้ นัยนี้ตาของพราหมณ์จึงมี 4 ตา ฉะนั้น ปีขึ้นครองราชย์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 จึงควรตรงกับ ม.ศ. 1104 (พระเวท = 4 ท้องฟ้า = 0 เลขหนึ่ง = 1 พระจันทร์ = 1) หรือ ค.ศ. 1182 (พ.ศ. 1725)

            ต่อเนื่องด้วยบทความ พัฒนาการทางวัฒนธรรมของชุมชนสมัยโบราณในพื้นที่ระหว่างลุ่มแม่น้ำเลยถึงห้วยน้ำโมงช่วงก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 14 จากหลักฐานทางโบราณคดี เขียนโดย กุลวดี สมัครไทย ดารารัตน์ เมตตาริกานนท์ และเวียงคำ ชวนอุดม ความน่าสนใจของบทความนี้อยู่ที่ผู้เขียนพยายามอธิบายให้เห็นถึงพัฒนาการทางวัฒนธรรมก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 14 ของชุมชนสมัยโบราณที่พบบริเวณพื้นที่ระหว่าง    ลุ่มแม่น้ำเลยถึงห้วยน้ำโมงด้วยการแบ่งเป็น 2 ช่วงระยะเวลา คือ หนึ่ง ก่อนประวัติศาสตร์ ที่มีการพบหลักฐานชุมชนแรกที่ริมแม่น้ำโขงตอนเหนือของแอ่งสกลนคร อายุประมาณ 5,500 - 2,700 ปีมาแล้ว กับ สอง สมัยประวัติศาสตร์ ที่มีการพบหลักฐานตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 8 เป็นต้นมา เกิดชุมชนในวัฒนธรรมทวารวดีที่นับถือพุทธศาสนาแบบเถรวาทที่ได้รับคติพุทธศาสนาฝ่ายมหายานและศิลปกรรมอิทธิพลวัฒนธรรมเขมรเข้ามาผสมผสานแตกต่างจากชุมชนสมัยประวัติศาสตร์ตอนต้นในพื้นที่อื่น ๆ ของภาคอีสาน

            จากนั้นเป็นบทความ จาก OTOP ถึง OTOP นวัตวิถี: นโยบายการพัฒนาที่มีชุมชนเป็นฐาน? เขียนโดย กาญจนา เหล่าโชคชัยกุล ความน่าสนใจของบทความนี้ผู้เขียนพยายามวิเคราะห์ให้เห็นถึงแนวปฏิบัติที่รัฐนำเสนอในการพัฒนาประเทศไทยในปัจจุบันที่มุ่งให้ความสำคัญกับชุมชนในฐานะแหล่งภูมิปัญญาผ่านนโยบายชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย พบว่าแม้นโยบายจะมีการเปลี่ยนแปลงไปหากแต่การกล่าวถึงการพัฒนาโดยแนวคิดใช้ชุมชนเป็นฐานที่ถูกนำไปปฏิบัติจริงของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ยังคงยึดกุมอำนาจและการสั่งการในลักษณะจากบนลงล่าง (Top - down) เช่นเดิม

            ถัดจากนั้นเป็นบทความ ป้าตสะลาจ: สัทพจน์ทางดนตรีในคัมภีร์ใบลานมอญ เขียนโดย จรัญ กาญจนประดิษฐ์ จตุพร สีม่วง ธรณัส หินอ่อน วัศการก แก้วลอย และวนิดา พรหมบุตร ความน่าสนใจของบทความนี้ ผู้เขียนพยายามนำเสนอมุมมองสัทพจน์มาเป็นแนวทางในการอธิบายลักษณะเสียงของป้าตสะลาจหรือฆ้องมอญในฐานะเครื่องดนตรีสำคัญที่ระบุในคัมภีร์ใบลานมอญ เรื่อง กฺยาจ เจ นู ฟอ (พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์) แสดงให้เห็นถึงเสียงในจินตนาการของผู้ประพันธ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของเสียงดนตรีที่มีอยู่ในวัฒนธรรมมอญในอดีต และแสดงถึงการให้คุณค่ากับเสียงดนตรีในวัฒนธรรมชาวมอญที่มีอิทธิพลเชื่อมโยงกับความศรัทธาในพระพุทธศาสนา

            สุดท้ายเป็นบทความ การศึกษาเปรียบเทียบตำรับยาในตำรายาวัดใหม่พรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก กับตำรับยาในตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ฉบับหลวง เขียนโดย ภัครพล แสงเงิน บทความนี้ได้ทำการศึกษาตำรับยาในตำรายาวัดใหม่พรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ที่มีการบันทึกเมื่อ พ.ศ. 2410 ด้วยการคัดเลือกตำรับยาเฉพาะที่มีข้อมูลครบถ้วนด้านเนื้อหา จำนวน 5 ตำรับ มาเปรียบเทียบกับตำรับยาในตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ฉบับหลวงที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ชำระและประมวลไว้เมื่อ พ.ศ. 2413 พบว่า ตำรับยาพรหมพักตร์ในตำรายา  วัดใหม่พรหมพิราม มีเนื้อหาใกล้เคียงกับตำรับยาพรหมพักตร์ในตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ฉบับหลวง ความแตกต่างกันปลีกย่อยของตำรับยาพรหมพักตร์ในตำรายา    วัดใหม่พรหมพิราม มีสรรพคุณพิเศษในการรักษาโรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะของบุรุษและสตรี นอกเหนือไปจากตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ฉบับหลวง

            นอกจากนี้ วารสารไทยคดีศึกษาฉบับนี้ยังมีบทวิจารณ์หนังสือ พระพุทธรูป พระพิมพ์ จากกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ พระนครศรีอยุธยา เขียนโดย ศักดิ์ชัย สายสิงห์ วิจารณ์โดย สิโรตม์ ภินันท์รัชต์ธร ความน่าสนใจของการวิจารณ์หนังสือนี้อยู่ที่ผู้วิจารณ์มีการนำเสนอจุดเด่นและข้อค้นพบใหม่ ที่มีคุณูปการต่อวงวิชาการประวัติศาสตร์ศิลปะของประเทศไทย ในการจัดแบ่งศิลปะในวัฒนธรรมเขมรออกจากศิลปะที่พบในภาคกลางของประเทศไทย อีกทั้งวารสารฉบับนี้ยังมีการนำเสนอข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมทางวิชาการรวมทั้งศิลปะและวัฒนธรรมที่สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการจัดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม - ธันวาคม พ.ศ. 2564 เพื่อให้บริการวิชาการและทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรมให้กับสังคมภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID - 19)

            ท้ายที่สุดนี้กองบรรณาธิการหวังว่าวารสารไทยคดีศึกษาจะยังคงเป็นเวทีและสื่อกลางทางวิชาการที่ทำหน้าที่สะท้อนและเผยแพร่องค์ความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับ “ไทย” ไปสู่ระดับสากล ทั้งยังสามารถตอบโจทย์ทางด้านวิชาการของผู้สนใจและเกิดคุณูปการต่อสังคม รวมถึงยังคงเป็นวารสารทางวิชาการที่ผู้สนใจให้การสนับสนุนสืบไป

เผยแพร่แล้ว: 2021-12-21

ป้าตสะลาจ: สัทพจน์ทางดนตรีในคัมภีร์ใบลานมอญ

จรัญ กาญจนประดิษฐ์, จตุพร สีม่วง, ธรณัส หินอ่อน, วัศการก แก้วลอย, วนิดา พรหมบุตร

147-168