วารสารไทยคดีศึกษา ฉบับปัจจุบันนี้ ซึ่งนับเป็นปีที่ 22 ฉบับที่ 1 วารสารยังคงทำหน้าที่เป็นสื่อกลางทางวิชาการที่สะท้อนปรากฏการณ์ทางศิลปวัฒนธรรมของสังคมไทยในหลากหลายมิติอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ ศิลปะ วรรณกรรม ตลอดจนวัฒนธรรมร่วมสมัยอย่างภูมิปัญญาท้องถิ่นและเศรษฐกิจชุมชน บทความต่าง ๆ ในฉบับนี้ได้ถ่ายทอดประเด็นเหล่านั้นไว้อย่างหลากหลายและลุ่มลึก ซึ่งสะท้อนความเคลื่อนไหวทางความคิดและภูมิปัญญาทางไทยคดีศึกษาได้อย่างน่าสนใจ

              บทความแรก อาณานิคมกาลเวลา: ปัญหาการแบ่งยุคสมัยในประวัติศาสตร์ล้านนา เขียนโดย พริษฐ์ ชิวารักษ์ บทความนี้นำเสนอการวิพากษ์การแบ่งยุคสมัยในประวัติศาสตร์ล้านนา โดยชี้ให้เห็นว่าการแบ่งยุคสมัยแบบ “สมัยใหม่” ที่ปรากฏขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เป็นผลจากการนำกรอบแนวคิดแบบตะวันตกมาใช้ ซึ่งมิได้เป็นอิสระจากอิทธิพลของประวัติศาสตร์ไทย / สยาม ความพยายามในการศึกษาล้านนาแม้ในนามของแนวคิดท้องถิ่นนิยมก็ยังได้รับอิทธิพลจากวาทกรรมชาตินิยมไทยและอคติต่อพม่า ซึ่งสะท้อนการครอบงำทางความคิดของรัฐไทยในบริบทสงครามโลกและสงครามเย็น บทความนี้จึงตั้งคำถามต่อความเป็นกลางของกระบวนการแบ่งยุคในประวัติศาสตร์ล้านนา และชี้ให้เห็นการสืบทอดและแฝงตัวของอุดมการณ์อำนาจในองค์ความรู้ทางประวัติศาสตร์ ผู้อ่านจะได้มุมมองเชิงวิพากษ์ใหม่ในการอ่านและทำความเข้าใจประวัติศาสตร์ล้านนา ตลอดจนตระหนักถึงพลวัตของการผลิตองค์ความรู้ทางประวัติศาสตร์ในบริบทการเมือง วาทกรรม และอำนาจ

              บทความถัดมา การอยู่ร่วมกันของวัตถุ มนุษย์ ผี ผ่านวิถีและประสบการณ์ทางผัสสะของคนริมน้ำโขง เขียนโดย ชนาง อำภารักษ์ บทความนี้เป็นงานวิชาการที่เสนอการทบทวนกรอบมโนทัศน์ร่วมสมัยในการศึกษานิเวศวิทยา โดยนำเสนอแนวคิดสำคัญจากนักคิดอย่าง Arturo Escobar เรื่อง “โลกหลากหลาย” (pluriverse) และแนวทาง “นิเวศวิทยาสภาวัตถุ” (ecology of materiality) ของ Timothy Ingold มาใช้วิเคราะห์กรณีชุมชนริมแม่น้ำโขงในจังหวัดอุบลราชธานี งานศึกษาชี้ให้เห็นความพยายามย้ายศูนย์กลางการมองโลกจากมนุษย์ไปยังสิ่งอื่น ๆ ที่มีบทบาทร่วมในการประกอบสร้างความหมายของพื้นที่ ผ่านมุมมองเชิงประสบการณ์และวัตถุที่มีชีวิตจิตใจในระบบนิเวศ โดยไม่ยึดกรอบการศึกษาวัฒนธรรมวัตถุหรือมานุษยวิทยาเชิงนิเวศแบบเดิม ผลการสำรวจภาคสนามเบื้องต้นสะท้อนให้เห็นว่าชุมชนต่างมีวิธีทำความเข้าใจโลกที่หลากหลายและซับซ้อน ซึ่งไม่เพียงเชื่อมโยงกับสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ แต่ยังรวมถึงความเชื่อ วัฒนธรรม และความสัมพันธ์กับสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ที่ร่วมดำรงอยู่ในพื้นที่เดียวกัน งานชิ้นนี้จึงเปิดพื้นที่ใหม่ในการตั้งคำถามต่อวิธีวิทยาเดิม และเชิญชวนให้สำรวจโลกผ่านสายตาที่หลากหลายยิ่งขึ้น

              บทความลำดับที่สาม ประวัติศาสตร์นิพนธ์ทุ่งกุลาร้องไห้ ในช่วงทศวรรษ 2500 - ทศวรรษ 2560 เขียนโดย ธนกฤต ภูจันหา นราวิทย์ ดาวเรือง และทวีศิลป์ สืบวัฒนะ นำเสนอการศึกษาว่าด้วยพัฒนาการของการเขียนประวัติศาสตร์เกี่ยวกับพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ในช่วงระยะเวลากว่าหกทศวรรษ โดยให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงทางแนวคิด วิธีการ และบริบททางสังคมที่หล่อหลอมงานนิพนธ์ในแต่ละยุค ผู้เขียนได้สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของกระแสสังคมและเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ เช่น การพัฒนาโครงการรัฐ กระแสประวัติศาสตร์สังคมหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ความตื่นตัวทางวัฒนธรรมชุมชนในทศวรรษ 2530 ไปจนถึงแนวคิดท้องถิ่นนิยมหลังวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ซึ่งล้วนส่งอิทธิพลต่อกรอบความคิดในการเขียนประวัติศาสตร์อย่างหลากหลาย บทความนี้จึงเปิดมุมมองใหม่ในการเข้าใจ “ทุ่งกุลาร้องไห้” ไม่เพียงในฐานะพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ แต่ในฐานะสนามของการต่อรอง ความทรงจำ และการสร้างความหมายทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

              ไล่เรียงมาที่บทความถัดมา พระพุทธรูปประจำเทวดานพเคราะห์ - ประจำวันในศิลปะพม่าที่อาจได้อิทธิพลจากศิลปะไทย เขียนโดย สุระ พิริยะสงวนพงศ์ เป็นการศึกษาที่น่าสนใจเกี่ยวกับการสร้างพระพุทธรูปในศิลปะพม่าหลังได้รับเอกราช โดยชี้ให้เห็นรูปแบบใหม่ของการประดิษฐานพระพุทธรูปที่เชื่อมโยงกับคติความเชื่อเรื่องเทวดา นพเคราะห์และวันประจำวัน รูปแบบดังกล่าวมีลักษณะเฉพาะที่เน้นการเลือกปางหรือมุทราต่างกันในแต่ละองค์เพื่อแสดงความสัมพันธ์กับเทวดานพเคราะห์ ซึ่งถือเป็นพัฒนาการที่ไม่พบในศิลปะพม่ายุคก่อนหน้า งานวิจัยชิ้นนี้จึงตั้งข้อสังเกตถึงความเป็นไปได้ของการรับอิทธิพลจากศิลปะไทย โดยเฉพาะในช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้น และยกตัวอย่างเปรียบเทียบพระพุทธรูปทั้งในพม่าและไทยที่สร้างโดยชาวพม่า เพื่อเปิดประเด็นต่อความสัมพันธ์ทางศิลปกรรมระหว่างสองประเทศ ผ่านมุมมองของประวัติศาสตร์ศิลปะที่ให้ทั้งข้อมูลและการตีความอันลุ่มลึก

              บทความลำดับที่ห้า หนังสือภาพและหนังสือการ์ตูนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร: พลวัตของวรรณกรรมเฉลิมพระเกียรติร่วมสมัยในมิติภาพเสนอของพระมหากษัตริย์ เขียนโดย คณิตา หอมทรัพย์ และธัญญา สังขพันธานนท์ เป็นบทความที่ศึกษาพลวัตของวรรณกรรมเฉลิมพระเกียรติร่วมสมัย โดยเฉพาะในมิติของภาพเสนอของพระมหากษัตริย์ผ่านหนังสือภาพและหนังสือการ์ตูนที่จัดพิมพ์ในช่วงระหว่าง พ.ศ. 2542 - 2564 ซึ่งเกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้เขียนใช้แนวคิดภาพเสนอในวรรณกรรมเฉลิมพระเกียรติเป็นกรอบในการวิเคราะห์และเปรียบเทียบกับวรรณกรรมในยุคก่อน ผลการศึกษาชี้ให้เห็นภาพลักษณ์ใหม่ของพระมหากษัตริย์ในเชิงมนุษยนิยมที่สะท้อนทั้งพระอัจฉริยภาพ ความเสียสละ ความเพียร และพระอารมณ์ขัน โดยทั้งหมดนี้หลอมรวมเป็นคุณลักษณะร่วมสมัยที่สื่อถึงพระองค์ในฐานะผู้นำที่เปี่ยมด้วยคุณธรรมและใกล้ชิดประชาชน งานชิ้นนี้ไม่เพียงขยายกรอบการวิเคราะห์วรรณกรรมเฉลิมพระเกียรติ แต่ยังเปิดพื้นที่ให้เข้าใจถึงพลวัตของการสร้างภาพจำทางวัฒนธรรมในยุคปัจจุบัน

              ถัดมาที่บทความ กระบวนการสร้างผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ “ไข่เค็มชุมชนวัดพระรูป” ด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นและองค์ความรู้พิพิธภัณฑ์วัด เขียนโดย เทียมจิตร์ พ่วงสมจิตร์ บทความนี้นำเสนอกรณีศึกษาการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน “ไข่เค็มแม่ฟื้น” จากชุมชนวัดพระรูป ซึ่งเป็นผลลัพธ์ของการประยุกต์ภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ากับแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์และการออกแบบร่วมสมัย ผ่านกระบวนการ 4 ขั้นตอน ได้แก่ การสืบค้นองค์ความรู้ การออกแบบผลิตภัณฑ์ การเพิ่มมูลค่าทางวัฒนธรรม และการสร้างความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะชุมชน วัด และนักวิชาการ บทความนี้ชี้ให้เห็นบทบาทสำคัญของการมีส่วนร่วมและเครือข่ายความร่วมมือในการขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งยังเปิดมุมมองให้ผู้อ่านได้เรียนรู้แนวทางการต่อยอดทุนวัฒนธรรมสู่การพัฒนาเชิงสร้างสรรค์ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในบริบทอื่นได้อย่างเป็นรูปธรรม

              บทความสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด คือบทความ อยู่กับจุลชีพอย่างไรในโลกกาแฟพิเศษ กรณีศึกษาจากเกษตรกรและผู้แปรรูปกาแฟรายย่อย จังหวัดชุมพร เขียนโดย ณัฐสุดา ปั่นทรัพย์ บทความชิ้นนี้ศึกษากระบวนการผลิตเมล็ดกาแฟสารสายพันธุ์โรบัสต้าในจังหวัดชุมพร ผ่านมุมมองของวิธีวิทยาแบบหลากสายพันธุ์นิพนธ์ โดยเน้นความสัมพันธ์ร่วมระหว่างมนุษย์กับจุลชีพในการหมัก ตาก และจัดเก็บกาแฟในบริบทของตลาดกาแฟพิเศษที่กำลังเติบโต งานวิจัยเผยให้เห็นการปรับตัวของเกษตรกรและผู้แปรรูปกาแฟรายย่อยที่ให้ความสำคัญต่อคุณภาพกลิ่นรสและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ท่ามกลางเงื่อนไขภูมิอากาศที่ไม่แน่นอนในภาคใต้ บทความนี้เปิดมุมมองใหม่ต่อการผลิตกาแฟในฐานะกระบวนการร่วมของมนุษย์กับสิ่งมีชีวิตอื่น ผู้อ่านจะได้เรียนรู้ถึงการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสที่ซับซ้อน การควบคุมกระบวนการหมักภายใต้บริบทท้องถิ่น และแนวคิดร่วมสมัยที่เชื่อมโยงชีววิทยากับวัฒนธรรมการผลิตอย่างแนบแน่น

              นอกจากนี้ วารสารไทยคดีศึกษาฉบับนี้ยังมีบทวิจารณ์หนังสือ (ก่อน) บอลไทยจะไปบอลโลก เขียนโดย ภิญญพันธุ์ พจนะลาวัณย์ และ อาจินต์ ทองอยู่คง วิจารณ์โดย ธนะปิติ ธิป๋า โดยผู้วิจารณ์ได้สรุปเนื้อหาของหนังสือ และวิจารณ์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับฟุตบอลไทยผ่านประเด็นหลัก 3 ประเด็น ได้แก่ 1) อำนาจ: กำเนิดจากศูนย์กลางสู่การกระจายและความสำเร็จของทีมจากรอบนอก 2) พื้นที่: ในสนาม เกมกีฬา และกิจกรรมเกี่ยวเนื่องนอกสนาม และ 3) สื่อ: พัฒนาการของเทคโนโลยีการผลิตและการกระจายกีฬาฟุตบอลสู่สาธารณชน โดยประเด็นเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าหนังสือเล่มนี้ได้นำเสนอข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์และการวิเคราะห์พัฒนาการของกีฬาฟุตบอลไทย ภายใต้บริบทสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองในแต่ละช่วงเวลา ช่วยให้เห็นบทบาทของฟุตบอลทั้งในฐานะวัฒนธรรมประชานิยม เครื่องมือทางการเมือง และพื้นที่แสดงออกของอัตลักษณ์ รวมถึงพลังยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คน เหมาะสำหรับผู้อ่านที่สนใจศึกษาฟุตบอลไทยอย่างรอบด้าน ด้วยข้อมูลจากงานวิชาการที่ร้อยเรียงอย่างมีมิติและน่าเชื่อถือ

              ท้ายที่สุด กองบรรณาธิการมุ่งหวังว่าวารสารไทยคดีศึกษาจะยังคงเป็นพื้นที่แห่งความคิดสร้างสรรค์ทางวิชาการ ที่จุดประกายแรงบันดาลใจ เปิดรับความหลากหลายในแง่องค์ความรู้ ผู้คน และแนวทางการศึกษา พร้อมสื่อสารผ่านบทความที่มีคุณภาพ ทันสมัย และมีความหมายต่อผู้อ่านและสังคมอย่างต่อเนื่องสืบไป

เผยแพร่แล้ว: 2025-06-24

ประวัติศาสตร์นิพนธ์ทุ่งกุลาร้องไห้ ในช่วงทศวรรษ 2500 - ทศวรรษ 2560

ธนกฤต ภูจันหา, นราวิทย์ ดาวเรือง, ทวีศิลป์ สืบวัฒนะ

75-110