รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกร่วมกับการสร้างจิตสำนึกความรับผิดชอบเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาสภาพการการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ 2. สร้างและ
พัฒนารูปแบบ และ 3. ทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกร่วมกับการสร้างจิตสำนึกความรับผิดชอบเพื่อส่งเสริมทักษะ
การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตัวอย่างและกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ครูที่
สอนวิชาคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29
จำนวน 175 คน ครูผู้เชี่ยวชาญพิเศษในการสอนวิชาคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 4 ท่าน ผู้เชี่ยวชาญ
7 ท่าน และนักเรียน 5 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกร่วมกับการสร้างจิตสำนึก
แบบทดสอบทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์และแบบสอบถามวัดความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่า t (แบบอิสระ) การวิเคราะห์ความแปรปรวน
สองทาง การวิเคราะห์สหสัมพันธ์ และการวิเคราะห์การถดถอยแบบพหุคูณ
ผลการศึกษา พบว่า 1) นักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกร่วมกับการสร้างจิตสำนึก
มีความรับผิดชอบมากกว่านักเรียนที่ได้รับการสอนแบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับนัยสำคัญ .01 2) นักเรียนที่ได้รับ
การสอนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกร่วมกับการสร้างจิตสำนึกความรับผิดชอบมีทักษะการแก้ปัญหาทาง
คณิตศาสตร์มากกว่านักเรียนที่ได้รับการสอนแบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับนัยสำคัญ .01 และ 3) ความรับผิดชอบ
และวิธีการสอนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกร่วมกับการสร้างจิตสำนึกความรับผิดชอบ ส่งผลทางบวกต่อทักษะ
การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับนัยสำคัญ .01
Article Details
ข้อกำหนดเบื้องต้นที่ผู้นิพนธ์(ผู้ส่งบทความ) ควรทราบ
1. ผู้นิพนธ์ที่ประสงค์จะลงตีพิมพ์บทความกับวารสาร ตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 เป็นต้นไป ให้ใช้รูปแบบใหม่ (Template 2563) โดยสามารถดูตัวอย่างได้ที่เมนู GUIDELINES
2. จะตีพิมพ์และเผยแพร่ได้ ต้องผ่านการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review)
3. การประเมินบทความโดยผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) เป็นแบบ Double Blind
4. การอ้างอิงบทความใช้หลักเกณฑ์ APA (American Psychological Association) คลิก
5. บทความถูกปฏิเสธการตีพิมพ์ ไม่ผ่านการประเมิน ผู้นิพนธ์ขอยกเลิกเองหรือชำระเงินก่อนได้รับการอนุมัติ ทางวารสารไม่มีนโยบายการคืนเงิน
References
กันยา พลายมี. (2553). การพัฒนาแบบวัดความรับผิดชอบ ตามพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุพรรณบุรี (วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตร์มหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี, กาญจนบุรี.
บุญชม ศรีสะอาด. (2541). การพัฒนาการสอน (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: ชมรมเด็ก.
ปริญญา พวงจันทร์. (2556). การศึกษาความคิดสร้างสรรค์ในการทำโครงงานเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐอินโดนีเซียของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้วยการเรียนรู้แบบโครงงานสำหรับโรงเรียนคูพั่ฒนาไทย-อินโดนีเซีย (วิทยานิพนธป์ ริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศิลปากร, นครปฐม.
ปิยนาถ เหมวิเศษ. (2551). การสร้างกิจกรรมการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ที่เลือกใช้กลยุทธ์ในการแก้ปัญหาที่หลากหลายเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (วิทยานิพนธ์ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, กรุงเทพมหานคร.
พิสมัย อาแพงพันธ์. (2557). การพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศสตร์ตามแนวคิดอิงการเรียนรู้อิงบริบท (วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, สกลนคร.
ไพศาล เครือแสง. (2558). รูปแบบการส่งเสริมจริยธรรมทางการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตภาคเหนือตอนล่าง. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 4(1), 205-220.
รัฐศาสตร์ พนคุณวุฒิ. (2553). การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับสถานการณ์ในชีวิตจริงเรื่อง การวัดสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนแกน้อยศึกษา จังหวัดเชียงใหม่ (วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, เชียงใหม่.
ศราวุฒิ ขันคำหมื่น. (2553). การประยุกต์ใช้รูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกวิชาฟิสิกส์ เรื่อง สภาพสมดุลสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษา (วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี,กรุงเทพหมานคร.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2546). คู่มือวัดผลประเมินผลคณิตศาสตร์. กรุงเทพมหานคร:สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2556). แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557.กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ.
สิทธิพร อาจอินทร์. (2554). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการคิดวิเคราะห์กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์. วารสารวิจัย มข, 16(1), 72-82.
สิริรัตน์ บุตรสิงห์. (2551). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความรับผิดชอบต่อการเรียนวิชาสังคมศึกษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการสอนโดยการเรียนแบบร่วมมือด้วยวิธีจิกซอร์ 2 กับการสอนตามปกติ (วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยนครสวรรค์, นครสวรรค์.
สุนิสา แก้วกระจ่าง. (2553). การศึกษาความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง เส้นขนานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมกระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ (วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, กรุงเทพมหานคร.
Bonwell, C. C., and Sutherland, T. E. (1996). Using active learning in college class : A range of option for faculty. San Fransico: Jossey-Bass.
Brandes, D., and Ginis, P. (1996). Aguide to student-centered learning. Oxford: Blackwell.
John, M. (2011). QBQ!: The Question Behind The Question. New York: USA, G. P. Putnam’s Sons.
Krulik, S., and Reys, R. E. (1980). Problem solving in school mathematics. Reston, Virginia: NCTM.National Council of Teachers of Mathematics (NCTM). (1989). Curriculum and evaluation standard for school mathematics. Reston, Virginia: NCTM.
Sandford, F. H., and Wrightsman, L. S. Jr. (1970). Psychology. Belmont: Books/Cole.
Walberg, H. J. (1984). Improving the productivity of America’s schools. Educational leadership (Alexandria, VA), 41(8), 19–27.