การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านคำพื้นฐานสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยบทเรียนการ์ตูน
คำสำคัญ:
แบบฝึกทักษะการอ่านคำ, ประสิทธิภาพของชุดแบบฝึกทักษะ, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน, บทเรียนการ์ตูน, คำพื้นฐานภาษาไทย, ความพึงพอใจบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อสร้างและพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านคำพื้นฐานสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยบทเรียนการ์ตูน โรงเรียนวัดหนามแดง (เขียวอุทิศ)ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2. เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์การเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านคำพื้นฐานสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยบทเรียนการ์ตูน โรงเรียนวัดหนามแดง (เขียวอุทิศ) 3. การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านคำพื้นฐานสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยบทเรียนการ์ตูน โรงเรียนวัดหนามแดง (เขียวอุทิศ) ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ผลการวิจัย 1. จากการวิจัยพบว่าประสิทธิภาพของกระบวนการจัดการเรียนรู้โดยใช้การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านคำพื้นฐานสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยบทเรียนการ์ตูน จำนวน 7 เรื่อง เท่ากับร้อยละ 81.43 และประสิทธิภาพของผลลัพธ์โดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติมเรื่อง แบบฝึกทักษะการอ่านคำพื้นฐานสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยบทเรียนการ์ตูนเท่ากับร้อยละ 82.87 ซึ่งสรุปได้ว่า ประสิทธิภาพของหนังสืออ่านเพิ่มเติมเรื่อง แบบฝึกทักษะการอ่านคำพื้นฐานสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยบทเรียนการ์ตูน (T1/T2) 81.43/82.87 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ 2. จากผลการวิจัยพบว่าการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนที่เรียนรู้ด้วยหนังสืออ่านเพิ่มเติมเรื่อง แบบฝึกทักษะการอ่านคำพื้นฐานสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยบทเรียนการ์ตูน ก่อนเรียนและหลังเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับนัยสำคัญ .05 โดยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้หลังเรียนสูงกว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ก่อนเรียนรู้. 3. ระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบฝึกทักษะการอ่านคำพื้นฐานสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยบทเรียนการ์ตูน พบว่าความพึงพอใจโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (Mean = 2.88) ใช้แบบฝึกทักษะ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับนัยสำคัญ .05 ทั้งนี้ทำให้เห็นว่าผู้เรียนมีพัฒนาการทางการเรียนรู้ต่อการใช้แบบฝึกทักษะ มีความก้าวหน้าเพราะมีคะแนนเพิ่มขึ้นร้อยละ 30.82
เอกสารอ้างอิง
กรมวิชาการ. (2549). การจัดสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2544. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
ฉวีลักษณ์ บุญยะกาญจน. (2547). นวัตกรรมการศึกษา ชุดจิตวิทยาการอ่าน (Psychology of Reading). กรุงเทพฯ :ธารอักษร.
ทิศนา แขมมณี. (2548). ศาสตร์การสอน. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพมหานคร : ด่านสุทธาการพิมพ์.
วรรณภา ไชยวรรณ. (2549). การพัฒนาแผนการอ่านและการเขียนภาษาไทยเรื่องคำควบและอักษรนำสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้แบบฝึกทักษะ. การศึกษาค้นคว้าอิสระการศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
วิมลรัตน์ สุนทรโรจน์. (2549). นวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้. ภาควิชาหลักสูตรและการสอน คณะศึกษาศาสตร์ มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยสาคาม.
ปิยธิดา นิรภัย. (2552). การสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านคำพื้นฐานสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนอัมพรไพศาล จังหวัดนนทบุรี. วิทยานิพนธ์ ปริญญาศึกษาศาตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ไพโรจน์ คะเชนทร์. (2556). การวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ค้นเมื่อ 1 พ.ย. 2562.จาก www.waltoongpel.com/Sarawichakarn/wicha.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

