การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ โดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหนองคล้า
คำสำคัญ:
สื่ออิเล็กทรอนิกส์, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน, นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างและหาประสิทธิภาพของสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องรูปสามเหลี่ยม 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องรูปสามเหลี่ยม ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหนองคล้า กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหนองคล้า ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 17 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง รูปสามเหลี่ยม 2) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง รูปสามเหลี่ยม โดยใช้ร่วมกับสื่ออิเล็กทรอนิกนิกส์ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง รูปสามเหลี่ยม วิเคราะห์ข้อมูลหาประสิทธิภาพสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง รูปสามเหลี่ยม ตามเกณฑ์มาตรฐาน 70/70 โดยใช้ค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง รูปสามเหลี่ยม โดยใช้ค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง รูปสามเหลี่ยม โดยใช้การทดสอบค่าทีแบบ dependent sample t-test ผลการวิจัย พบว่า 1) สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง รูปสามเหลี่ยม มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 77.60/70.50 โดยชุดทดลองมีประสิทธิภาพสอดคล้องตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 70/70 2) ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องรูปสามเหลี่ยม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหนองคล้า ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (t = 26.40, Sig. = <.001) โดยมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน เท่ากับ 15.53 ( = 15.53, S.D.= 2.71) และมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 8.41 (
=8.41, S.D.= 2.15)
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560). กรุงเทพฯ:กระทรวงศึกษาธิการ.
เกียรติศักดิ์ บัณฑิต. (2562). การใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ในการจัดการเรียนการสอนของครูในโรงเรียนกลุ่มเครือข่ายรัษฏาเรืองวิทย์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2. (สารนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช). สืบค้น 2 มกราคม 2568, จาก https://ir.stou.ac.th
ทรงพล วงษ์กาญจนกุล. (2563). ความท้าทายในการสอนออนไลน์ของระดับประถมศึกษา: กรณีศึกษาครูโรงเรียนรุ่งอรุณ (วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยสยาม).
พิพัฒน์ อัฒพุธ. (2558). ผลการใช้สื่อสังคมออนไลน์ร่วมกับการเรียนรู้เชิงรุก วิชาการออกแบบและผลิตสื่อกราฟิกคอมพิวเตอร์ สำหรับนักศึกษาระดับชั้นปริญญาตรี (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยนเรศวร).
วิภาสิทธิ์ หิรัญรัตน์, นฤมล รักษาสุข, และสุมาลี ชัยเจริญ. (2559). การศึกษาเปรียบเทียบการเรียนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคสแต็ดระหว่างห้องเรียนเสมือนแบบปกติกับห้องเรียนเสมือนที่มีการช่วยเสริมศักยภาพทางการเรียนในรายวิชาภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. วารสาร ศึกษาศาสตร์ (ฉบับวิจัยบัณฑิตศึกษา) มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 10(3), 67-74.
สาลินี บุญสอน, มะลิวัลย์ ถุนาพรรณ์, และมนชยา เจียงประดิษฐ์. (2563). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยกลวิธี STAR ร่วมกับการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องโจทย์ปัญหาร้อยละของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. สืบค้น 2 มกราคม 2568,จาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/rmuj/article/view/258465/173961
สุวิมล พิบูลย์. (2556). การพัฒนาชุดการสอนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์เรื่องการวิจัยสำหรับครูช่างอุตสาหกรรม. สืบค้น 2 มกราคม 2568, จาก https://research.rmutsb.ac.th/fu.pdf
โสภาพันธ์ สอาด และคณะ. (2554). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้ปัญหาเป็นหลักผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการแก้ปัญหาทางการพยาบาลของนักศึกษาวิทยาลัยพยาบาล สังกัดสถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข. วารสารวิทยบริการ, 22(3), 150-162.
Chen, H. (2013). The Practice of English Teaching. Harlow: Longman.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Journal of Buddhist Education and Research (Online)

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

