การขัดเกลาเชิงวัฒนธรรมในคัมภีร์ใบลานนครตักศิลา
คำสำคัญ:
การขัดเกลาเชิงวัฒนธรรม, คัมภีร์ใบลานนครตักศิลาบทคัดย่อ
บทความทางวิชาการนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาค้นคว้ากระบวนการขัดเกลาเชิงวัฒนธรรมที่ปรากฏในคัมภีร์ใบลานนครตักศิลา โดยได้ใช้วิธีการค้นคว้าจากเอกสาร งานวิจัย หนังสือ ตํารา ตลอดถึง คัมภีร์ศาสนาต่าง ๆ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ การขัดเกลาเชิงวัฒนธรรม คือ กระบวนการที่คนเรียนรู้ ซึมซับบรรทัดฐานและค่านิยมของสังคมจากการสั่งสอนหรือการบอกกันโดยตรง และจากการสังเกตของตัวเองให้สามารถใช้ชีวิตร่วมกันกับผู้อื่น ใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมและพัฒนาตนเองให้เป็นสมาชิกที่ดีของสังคม รวมถึงเพื่อพัฒนาบุคลิกภาพของตนเอง ซึ่งการขัดเกลาเชิงวัฒนธรรมมีนักวิชาการได้ให้แนวคิดไว้หลายท่าน อาจกล่าวได้ว่า กระบวนการขัดเกลา เชิงวัฒนธรรมตามหลักคำสอนในคัมภีร์ใบลานนครตักศิลา และรวบรวมเป็นชุดความรู้เพื่อส่งเสริม การขัดเกลาเชิงวัฒนธรรมในคัมภีร์ใบลานนครตักศิลาผ่านการจัดกิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมสวดมนต์ นั่งสมาธิ ฟังบรรยาย ถาม-ตอบ ปัญหาธรรม คำสอนในคัมภีร์ใบลานนครตักศิลาสามารถนำมาเป็นแบบอย่างที่ดี ในการขัดเกลา เชิงวัฒนธรรม ประกอบด้วย 3 ด้าน ได้แก่ ด้านที่ 1 แบบแผนในการประพฤติปฏิบัติตน ด้านที่ 2 หลักปฏิบัติในการอยู่ร่วมกันหรือมารยาททางสังคม ด้านที่ 3 ความเชื่อทางศาสนา จากคำสอนที่ปรากฏในคัมภีร์เป็นชุดความรู้เพื่อการขัดเกลาเชิงวัฒนธรรม เป็นความสนใจต่อการเรียนรู้ในคัมภีร์ใบลานนครตักศิลา และสามารถนำเอาหลักคำสอนในคัมภีร์มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ และยังเป็นการต่อยอดในการเรียนรู้ภาษาและวรรณกรรมท้องถิ่นได้ดียิ่งขึ้น นำหลักคำสอน และคติความเชื่อไปถ่ายทอดให้คนในชุมชนได้เรียนรู้ร่วมกัน และมีจุดมุ่งหมายที่จะพัฒนากระบวนการคิดวิเคราะห์ ในระบบการเรียนรู้ในโรงเรียน หรือสถาบันการศึกษาให้อยู่ในคุณธรรมจริยธรรม ทําให้สังคมมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยดีงามรวมทั้งการอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติสุข
เอกสารอ้างอิง
ก่องแก้ว วีระประจักษ์. (2545). สารนิเทศจากคัมภีร์ใบลานสมัยอยุธยา. กรุงเทพมหานคร: หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร.
คายส์ เอฟ ชาร์ลส์. (2556). อีสานนิยม: ท้องถิ่นนิยมในสยามประเทศ. กรุงเทพมหานคร: มูลนิธิโครงการ ตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์.
งามพิศ สุภาพ. (2545). หลักมานุษยวิทยาวัฒนธรรม. กรุงเทพมหานคร: ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
จํานงค์ อดิวัฒนสิทธิ์ และคณะ. (2547). สังคมวิทยา. กรุงเทพมหานคร: ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ดํารง ฐานดี. (2522). การวิเคราะห์ทฤษฎีพวกพ้อง: การมองปัญหาของ Levi-Strauss. วารสาร รามคําแหง,2(6): 72-73.
ธรรมนูญ คําสัตย์. (2560). วิธีสร้างวินัยในตัวเองทําได้ไม่ยาก. เรียกใช้เมื่อ 30 เมษายน 2566 จาก http://www.acn.ac.th/articles/mod/forum/discuss.php?d=359
นิยพรรณ วรรณศิริ. (2540). มานุษยวิทยาสังคมและวัฒนธรรม. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
พระพิษณุพล สุวณฺณรูโป (รูปทอง), (2558), “การขัดเกลาสังคมโดยองค์กรศาสนาในพระพุทธศาสนา”,สาระนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต, บัณฑิตวิทยาลัย:มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระมหาดาวสยาม วชิรปญฺโญ, ดร. (2559). แบบเรียนอักษรธรรมอีสานและไทยน้อย. ขอนแก่น: ศูนย์ภาษาภูมิปัญญาและวัฒนธรรมอาเซียน.
วิชัย ภู่โยธิน และคณะ. (ม.ป.ป.). หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรมและการดําเนินชีวิตในสังคม ม.4 ม.6.กรุงเทพมหานคร: อักษรเจริญทัศน์.
สุพัตรา สุภาพ. (2549). ปัญหาสังคม. กรุงเทพมหานคร: ไทยวัฒนาพานิช.
สมชาย นิลอาธิ. (18 มีนาคม 2544). โลกทัศน์จากคัมภีร์ใบลาน: คติชนและวิถีชีวิต. เอกสารประกอบการ
ประชุมทางวิชาการเรื่อง“การสำรวจสถานภาพองค์ความรู้จากคัมภีร์ใบลานภาคตะวันออก เฉียง เหนือ ประเทศไทย.”, หน้า 91 - 107.
สำนักหอสมุดแห่งชาติ. (2552). คู่มือสำรวจ จัดหา รวบรวมทรัพยากรสารสนเทศ เอกสาร
World Health Organization. (1999). Partners in Life Skills Education. Geneva: WHO.

