ความสุขในการทำงานตามวิถีชีวิตใหม่ของบุคลากรศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ ระดับอำเภอ สังกัดสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดยะลา
คำสำคัญ:
ความสุขในการทำงาน, ความสุขตามวิถีชีวิตใหม่, ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับความสุขในการทํางานตามวิถีชีวิตใหม่ของบุคลากร ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอ สังกัดสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดยะลา 2) เปรียบเทียบความสุขในการทํางานตามวิถีชีวิตใหม่ของบุคลากร ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอ สังกัดสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดยะลา จำแนกตามข้อมูลทั่วไป ได้แก่ อายุ ตำแหน่ง รายได้ต่อเดือน ประสบการณ์ในการทำงาน และที่ตั้งของ สกร.ระดับอำเภอ และ 3) รวบรวมข้อเสนอแนะเกี่ยวกับความสุขในการทํางานตามวิถีชีวิตใหม่ของบุคลากร ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอ สังกัดสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดยะลา กลุ่มตัวอย่าง คือบุคลากรศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอ สังกัดสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดยะลา จำนวน 175 คน ใช้แบบสอบถาม ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้ค่าความเชื่อมั่น 0.97 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าที (t-test) และค่าเอฟ (F-test) ผลการวิจัยพบว่า 1) ความสุขในการทำงานตามวิถีชีวิตใหม่ของบุคลากร สกร.ระดับอำเภอ โดยภาพรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมาก ( x̄= 4.06, S.D= 0.59) 2) เปรียบเทียบความสุขในการทำงานตามวิถีชีวิตใหม่ของบุคลากร สกร.ระดับอำเภอ จำแนกตามอายุ ตำแหน่ง รายได้ต่อเดือน ประสบการณ์ในการทำงาน และที่ตั้งของ สกร.ระดับอำเภอ พบว่า บุคลากรที่อายุ ตำแหน่ง ประสบการณ์ในการทำงาน และที่ตั้งของ สกร.ระดับอำเภอ โดยภาพรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน ส่วนบุคลากรที่มีรายได้ต่อเดือนต่างกัน โดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน แต่เมื่อพิจารณารายด้าน มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 3) ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับความสุขในการทำงานตามวิถีชีวิตใหม่ของบุคลากร สกร.ระดับอำเภอ พบว่า ผู้บริหารควรส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้อต่อความมีน้ำใจ การทำงานเป็นทีม และวัฒนธรรมองค์กรที่ให้กำลังใจ เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจและประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน พร้อมทั้งสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพบุคลากรผ่านการอบรม การใช้เทคโนโลยี และการจัดสรรทรัพยากรที่เหมาะสมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
เอกสารอ้างอิง
ธนพร สุวรรณวรบุญ. (2563). ความสุขในการทำงานและสุขภาวะทางจิตของบุคลากรผู้ดูแลผู้ป่วยสารเสพติด (วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย).
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). พื้นฐานการวิจัยการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
มลทิรา จีนามูล. (2560). การศึกษาความสุขในการทำงานของครูโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยชลบุรี (โรงเรียนวิทยาศาสตร์ภูมิภาค) (วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยบูรพา).
ราชกิจจานุเบกษา. (2565). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566–2570). เล่มที่ 139 (ตอนพิเศษ 258 ง), 1–143.
ศกลวรรณ วงษ์แจ้ง. (2561). การศึกษาความสุขในการทำงานของบุคลากรทางการศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยรังสิต).
อัจฉราพร วงศ์พันธ์. (2564). ความสุขในการทำงาน: เปรียบเทียบระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต, สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์).
Adams, J. S. (1965). Inequity in social exchange. Advances in Experimental Social Psychology, 2, 267–299.
Herzberg, F., Mausner, B., & Snyderman, B. B. (1959). The motivation to work (2nd ed.). New York: John Wiley.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining simple size for research activities. Journal of Educational and Psychological Measurement, 30, 608.
Kristof, A. L. (1996). Person-organization fit: An integrative review of its conceptualizations, measurement, and implications. Personnel Psychology, 49(1), 1–49.
Maslow, A. H. (1943). A theory of human motivation. Psychological Review, 50(4), 370–396.
Vroom, V. H. (1964). Work and motivation. New York: Wiley.
Warr, P. (1990). The measurement of well-being and other aspects of mental health. Journal of Occupational Psychology, 63, 193–210.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
หมวดหมู่
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Journal of Buddhist Education and Research (JBER)

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

