รูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมสำนึกรักษ์ท้องถิ่นประวัติศาสตร์เมืองลับแล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนระดับมัธยมศึกษา อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์เมืองลับแล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนระดับมัธยมศึกษา อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ 2) เพื่อสร้างรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมสำนึกรักษ์ท้องถิ่น ประวัติศาสตร์เมืองลับแล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนระดับมัธยมศึกษา อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นวิจัยเชิงคุณภาพ ที่มีกลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลัก คือ 1) ครูผู้สอน กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ที่สอนในรายวิชาประวัติศาสตร์ ไม่น้อยกว่า 2 ปี ในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาของรัฐในอำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน 3 คน 2) ผู้เชี่ยวชาญ ที่มีความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการศึกษาประวัติศาสตร์เมืองลับแล จำนวน 2 คน 3) นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนมัธยมศึกษา ในพื้นที่อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน 15 คน และ 4) นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนด่านแม่คำมันพิทยาคม อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน 17 คน โดยมีขอบเขตด้านพื้นที่ คือ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมสำนึกรักษ์ท้องถิ่น ประวัติศาสตร์เมืองลับแล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนระดับมัธยมศึกษา อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ที่เหมาะสม คือ รักษ์ (รับ) แล โมเดล (Rak Rup Lae Learning Model) ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 รับ คือ การเปิดรับสิ่งใหม่ ที่จะได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์และมุมมองใหม่ ๆ ทั้งครูและนักเรียนโดยมีแนวคิดที่สำคัญ 2 ประการ ได้แก่ Open Eye หมายถึง การเปิดตา ปรับความคิด เตรียมพร้อมที่จะเรียนรู้ต้องสังเกต ตั้งคำถาม และการมองเห็นคุณค่าของประวัติศาสตร์ท้องถิ่น โดยไม่ยึดติดกับกรอบความคิดแบบเดิม และ Open Mind หมายถึง การเปิดใจ ปรับทัศนคติของตนใหม่ และยอมรับความหลากหลายทางความคิด ความเชื่อ และคุณค่าที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ท้องถิ่น พร้อมทั้งพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ขั้นตอนที่ 2 แล หมายถึง การแลเห็น ตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่นเมืองลับแลจากการศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาที่เกิดขึ้น นำไปสู่แนวทางในการจัดการเรียนรู้ ทั้งหมด 6 ด้านประกอบด้วย ด้านครูผู้สอน ด้านนักเรียน ด้านเนื้อหา ด้านสื่อการสอน ด้านการจัดการเรียนรู้ และด้านการวัดและประเมินผล เพื่อให้ได้แนวทางการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นเมืองลับแล ด้วยชุดกิจกรรม 5 กิจกรรม ประกอบด้วย กิจกรรมที่ 1 เรียนรู้ลับแล ที่ไม่ใช่แค่ตำนาน กิจกรรมที่ 2 เหตุการณ์สำคัญ สร้างสรรค์ลับแล กิจกรรมที่ 3 ย้อนรอยประวัติศาสตร์เมืองลับแล กิจกรรมที่ 4 มองหลักฐานผ่านลับแล และกิจกรรมที่ 5 สืบสานเรียนรู้ประวัติศาสตร์เมืองลับแลและขั้นตอนที่ 3 รักษ์ คือ ความรักและความภาคภูมิใจในรากเหง้าท้องถิ่นของตนเอง ผ่านการศึกษาทำกิจกรรมแบบมีส่วนร่วม ในขั้นตอนรับและขั้นตอนแล เพื่อให้เกิดสำนึกท้องถิ่นที่เรียนรู้การเกิดขึ้นของอดีต และการปรับตัวในฐานะส่วนหนึ่งของชุมชน ที่จะนำไปสู่การเป็นพลเมืองโลกและสร้างกระบวนการคิดเชิงสากลในอนาคต
เอกสารอ้างอิง
กัญญาณัฐ สิมสวัสดิ์. (2565). การจัดการเรียนรู้โดยชุมชนเป็นฐาน : กลยุทธ์การจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19. วารสารวิจัยศรีล้านช้าง, 2(6), 47–55.
คณะกรรมการศึกษาประวัติศาสตร์เมืองลับแล. (2565). เมืองลับแล(ง) ตำนาน เรื่องเล่า ประวัติศาสตร์ และข้อค้นพบใหม่. เทศบาลตำบลศรีพนมมาศ.
ฐาปนีย์ รักภูบาล. (2565). ผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ที่มีต่อความสามารถในการวิเคราะห์สาเหตุและผลสืบเนื่องทางประวัติศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร].
ตุลย์ จันทร์อุดม. (2564). รูปแบบการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นเชิงบูรณาการกลุ่มสาระ
สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม บนถนนราชดำเนินจังหวัดนครศรีธรรมราช [วิทยานิพนธ์
ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยนเรศวร].
ธงชัย วินิจจะกูล. (2562). ออกนอกขนบประวัติศาสตร์ไทย : ว่าด้วยประวัติศาสตร์นอกขนบและ
วิธีวิทยาทางเลือก. สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน.
วิทยาลัยช่างศิลปะสุพรรณบุรี. (2556). เทคนิคการเรียนการสอนที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน. สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์.
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2567). แนวทางการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นในสังคมร่วมสมัยเรื่องของฉัน เรื่องของเรา Local History Our Story. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน : กระทรวงศึกษาธิการ.
สุนทรชัย ชอบยศ. (2562). ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นเพื่อการพัฒนารากฐานท้องถิ่นที่เข้มแข็งและยั่งยืน.
วารสารสถาบันพระปกเกล้า, 17(2), 115–138.
อาทิตย์ บุญสินธุ์. (2564). กิจกรรมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น โดยใช้ชุมชนเป็นฐานการเรียนรู้ เรื่อง เมืองร้าง ดงแม่นางเมือง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในอำเภอเก้าเลี้ยว จังหวัดนครสวรรค์ [การค้นคว้าอิสระปริญญามหาบัญฑิต, มหาวิทยาลัยนเรศวร].
Flecky, K. (2011). Foundations of service learning. Jones and Bartlett. Retrieved from http://samples.jbpub.com/9780763759582/59582_CH01_FINAL.pdf
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
หมวดหมู่
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Journal of Buddhist Education and Research (JBER)

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

