การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ภาษาไทยตามแนวคิดการเรียนรู้และการสอน บนฐานความยึดมั่นผูกพันและการเรียนรู้แบบนำตนเอง เพื่อเสริมสร้างความผูกพันในการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ผู้แต่ง

  • กาญจนา จารี คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยนเรศวร, พิษณุโลก, ประเทศไทย
  • วิเชียร ธำรงโสตถิสกุล คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยนเรศวร, พิษณุโลก, ประเทศไทย

คำสำคัญ:

กิจกรรมการเรียนรู้ภาษาไทย, แนวคิดการเรียนรู้และการสอนบนฐานความยึดมั่นผูกพัน, แนวคิดการเรียนรู้แบบนำตนเอง, ความผูกพันในการอ่าน

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) สร้างและหาประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาไทยตามแนวคิดการเรียนรู้และการสอนบนฐานความยึดมั่นผูกพันและการเรียนรู้แบบนำตนเอง ตามเกณฑ์ 80/80 (2) ศึกษาผลการทดลองใช้กิจกรรมการเรียนรู้ภาษาไทยตามแนวคิดการเรียนรู้และการสอนบนฐานความยึดมั่นผูกพันและการเรียนรู้แบบนำตนเอง (3) เพื่อประเมินความคิดเห็นที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาไทยตามแนวคิดการเรียนรู้และการสอนบนฐานความยึดมั่นผูกพันและการเรียนรู้แบบนำตนเอง กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนบ้านเนินสุวรรณ จำนวน 10 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ กิจกรรมการเรียนรู้ภาษาไทยตามแนวคิดการเรียนรู้และการสอนบนฐานความยึดมั่นผูกพันและการเรียนรู้แบบนำตนเอง แบบประเมินความผูกพันในการอ่าน และแบบประเมินความคิดเห็นของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิตินอนพาราเมตริกแบบ One sample Wilcoxon signed rank test ผลการวิจัยพบว่า กิจกรรมการเรียนรู้ภาษาไทยตามแนวคิดการเรียนรู้และการสอนบนฐานความยึดมั่นผูกพันและการเรียนรู้แบบนำตนเอง เพื่อเสริมสร้างความผูกพันในการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 79.96/80.30 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาไทยตามแนวคิดการเรียนรู้และการสอนบนฐานความยึดมั่นผูกพันและการเรียนรู้แบบนำตนเอง มีความผูกพันในการอ่านหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สามารถตั้งเป้าหมายในการอ่าน ใช้กลยุทธ์ที่หลากหลาย สามารถสรุปสาระสำคัญ บอกความรู้/ข้อคิด และแนวทางการนำความรู้/ข้อคิดนั้นไปประยุกต์ใช้ สามารถปฏิบัติกิจกรรมการอ่านได้บรรลุเป้าหมาย มีความกระตือรือร้นในการอ่าน มีความรู้สึกร่วมไปกับสิ่งที่อ่าน และพอใจเมื่อได้แลกเปลี่ยนสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอ่านกับเพื่อน และมีความคิดเห็นที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาไทยตามแนวคิดการเรียนรู้และการสอนบนฐานความยึดมั่นผูกพันและการเรียนรู้แบบนำตนเอง ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.82, S.D. = 0.23)

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2008). หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551. โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

งามพันธ์ สัยศรี. (2018). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามการเรียนรู้และการสอนบนฐานความยึดมั่นผูกพันและการเรียนรู้แบบนำตนเอง เพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ชัยยงค์ พรหมวงศ์. (2002). เอกสารประกอบการสอนชุดวิชาเทคโนโลยีการศึกษาหน่วยที่ 1-5. สำนักเทคโนโลยีทางการศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

ยุทธนา พันธ์มี และคณะ. (2018). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดความยึดมั่นผูกพันร่วมกับการเรียนรู้แบบโครงงานเพื่อส่งเสริมสมรรถนะด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาของนักศึกษาหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏ. วารสารครุศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร, 3(6), 30–44.

รัชนีกูล ภิญโญภานุวัฒน์. (2017). ปัจจัยเชิงสาเหตุของการรู้หนังสือและความสามารถในการอ่านเพื่อรองรับโลกศตวรรษที่ 21. วารสารสุโขทัยธรรมาธิราช, 30(2), 21–35.

รัตนะ บัวสนธ์. (2009). การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการศึกษา. คำสมัย.

สมชาย วรกิจเกษมสกุล. (2011). ระเบียบวิธีการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่ 2). อักษรศิลป์การพิมพ์.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2017). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560–2579 (พิมพ์ครั้งที่ 1). บริษัท พริกหวานกราฟฟิค จำกัด.

เหมันต์ พรหมสนธิ์. (2020). อิทธิพลของการรับรู้บรรยากาศทางวิชาการที่มีต่อความผูกพันในการอ่านเชิงวิชาการในวัยรุ่นตอนปลายโดยมีเอกลักษณ์แห่งตน การรับรู้ความสามารถแห่งตน และการให้คุณค่าในการอ่านเป็นตัวแปรส่งผ่าน (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

Guthrie, J. T., & Cox, K. E. (2001). Classroom conditions for motivation and engagement in reading. Educational Psychology Review, 13, 283–302.

Jones, R. D. (2008). Strengthening student engagement. International Center for Leadership in Education.

Knowles, M. S. (1975). Self-directed learning: A guide for learners and teachers. Cambridge Books.

Organization for Economic Cooperation and Development. (2018). PISA 2018 reading frameworks. https://www.oecd-ilibrary.org/docserver/5c07e4f1-en.pdf

Wigfield, A., Guthrie, J. T., Perencevich, K. C., Taboada, A., Klauda, S. L., McRae, A., & Barbosa, P. (2008). Role of reading engagement in mediating effects of reading comprehension instruction on reading outcomes. Psychology in the Schools, 45(5), 432–445.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-10-01

รูปแบบการอ้างอิง

จารี ก. ., & ธำรงโสตถิสกุล ว. . (2025). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ภาษาไทยตามแนวคิดการเรียนรู้และการสอน บนฐานความยึดมั่นผูกพันและการเรียนรู้แบบนำตนเอง เพื่อเสริมสร้างความผูกพันในการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. Journal of Buddhist Education and Research (JBER), 11(4), 154–165. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jber/article/view/284567