การบูรณาการหลักวิถีพุทธเพื่อส่งเสริมการตื่นรู้ทางการเมืองของประชาชน ในจังหวัดฉะเชิงเทรา
คำสำคัญ:
การบูรณาการหลักวิธีพุทธ, การตื่นรู้ทางการเมือง, ประชาชนในจังหวัดฉะเชิงเทราบทคัดย่อ
การวิจัยนี้วัตถุประสงค์คือ 1. เพื่อศึกษาการตื่นรู้ทางการเมืองของประชาชนใน จังหวัดฉะเชิงเทรา 2. เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการตื่นรู้ทางการเมืองของประชาชนในจังหวัด ฉะเชิงเทรา และ 2. เพื่อนำเสนอการบูรณาการหลักวิถีพุทธเพื่อส่งเสริมการตื่นรู้ทางการเมืองของ ประชาชนในจังหวัดฉะเชิงเทรา ดำเนินการวิธีวิจัยแบบผสานวิธี โดยการวิจัยเชิงปริมาณ เก็บรวบรวม ข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 400 คน โดยใช้แบบสอบถามที่มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.973 ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การ วิเคราะห์สหสัมพันธ์ และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน การวิจัยเชิงคุณภาพเป็น การศึกษาภาคสนามด้วยวิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก จากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 18 รูปหรือคน และ การสนทนากลุ่มเฉพาะ 9 รูปหรือคน เพื่อยืนยันองค์ความรู้หลังจากการสังเคราะห์ข้อมูล 1. การส่งเสริมการตื่นรู้ทางการเมืองของประชาชนในจังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่า ด้าน ความสนใจทางการเมืองในชีวิตความเป็นอยู่และสิทธิของพลเมือง ประชาชนควรตระหนักถึงสิทธิและ หน้าที่ของตนเองในฐานะพลเมืองความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน การเมืองควรเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้อง กับชีวิตประจำวันของประชาชน เช่น ปัญหาปากท้อง สาธารณูปโภคการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ประชาชนควรมีโอกาสเข้าถึงข้อมูลข่าวสารทางการเมืองที่ถูกต้องและหลากหลาย ด้านความเข้าใจใน ระบบการเมือง ประชาชนควรเข้าใจบทบาทและหน้าที่ของนักการเมือง รวมถึงพรรคการเมืองต่างๆ ด้านความรู้ทางการเมือง ประชาชนควรเข้าใจกระบวนการทางการเมือง เช่น การเลือกตั้ง การออก กฎหมาย การตรวจสอบการใช้อำนาจรูปแบบการปกครอง ประชาชนควรมีความรู้เกี่ยวกับระบบการ ปกครองของประเทศ และหลักการประชาธิปไตย ด้านความรู้ทางการเมือง ประชาชนควรมีทักษะใน การวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารทางการเมือง เพื่อแยกแยะข่าวจริงจากข่าวปลอม ประชาชนควรมีส่วน ร่วมในการแสดงความคิดเห็น และตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ประชาชนควรมีความสามารถใน การตัดสินใจทางการเมืองอย่างรอบคอบ ด้านทัศนคติทางการเมือง ประชาชนควรมีความเชื่อมั่นใน ระบอบประชาธิปไตย 2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตื่นรู้ทางการเมืองของประชาชนในจังหวัดฉะเชิงเทรา ผลการวิจัย พบว่า 1) สถาบันในการกล่อมเกลาทางการเมือง ส่งผลต่อการส่งเสริมการตื่นรู้ทางการเมืองของ ประชาชนในจังหวัดฉะเชิงเทรา มี 3 ด้าน มีนัยสำคัญทางสถิติระดับ 0.001 โดยเรียงลำดับตามสมการ ดังนี้ คือ ด้านสื่อมวลชน ด้านกลุ่มเพื่อน และด้านกลุ่มอาชีพ ตามลำดับ แสดงว่าสถาบันในการกล่อม เกลาทางการเมืองสามารถร่วมกันทำนาย การส่งเสริมการตื่นรู้ทางการเมืองของประชาชนในจังหวัด ฉะเชิงเทรา ได้ร้อยละ 22.10 และ 2) หลักสาราณียธรรม 6 ส่งผลต่อการส่งเสริมการตื่นรู้ทาง การเมืองของประชาชนในจังหวัดฉะเชิงเทรา มี 3 ด้าน มีนัยสำคัญทางสถิติระดับ 0.01 โดย เรียงลำดับตามสมการดังนี้ คือ ทิฏฐิสามัญญตา เมตตากายกรรม และสีลสามัญญตา ตามลำดับ แสดง ว่าหลักสาราณียธรรม 6 สามารถร่วมกันทำนาย การส่งเสริมการตื่นรู้ทางการเมืองของประชาชนใน จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ร้อยละ 38.90 3. การบูรณาการหลักวิถีพุทธเพื่อส่งเสริมการตื่นรู้ทางการเมืองของประชาชนในจังหวัด ฉะเชิงเทรา พบว่า ด้านเมตตากายกรรม (การกระทำ) เน้นการช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน การมี จิตใจเอื้ออาทร สนับสนุนให้มีการปฏิบัติต่อกันอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ ส่งเสริมให้ประชาชน ได้รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และนำมาพิจารณาในการตัดสินใจ ด้านเมตตาวจีกรรม (การพูด) เน้น การใช้คำพูดที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม สนับสนุนให้ประชาชนเปิดใจรับฟังความ คิดเห็นที่แตกต่าง ส่งเสริมให้ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์นโยบายหรือบุคคลทางการเมืองได้อย่างสุภาพ ด้านเมตตามโนกรรม (ความคิด) เน้นการคิดดี ทำดี มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ สนับสนุนให้ประชาชนมี ความคิดที่ยุติธรรมและเป็นกลาง ส่งเสริมให้ประชาชนเสียสละเพื่อส่วนรวม ด้านสาธารณโภคี (การแบ่งปัน) เน้นการแบ่งปันทรัพยากรอย่างเป็นธรรม สนับสนุนให้ประชาชนไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว แต่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ด้านสีลสามัญญตา (การประพฤติปฏิบัติ) เน้นการประพฤติตนอย่าง ถูกต้องตามหลักธรรม สนับสนุนให้ประชาชนเคารพกฎหมายและระเบียบวินัย ส่งเสริมให้ประชาชน เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้อื่น ด้านทิฏฐิสามัญญตา (ความเห็นร่วมกัน) สนับสนุนให้ประชาชนยอมรับ ความคิดเห็นที่แตกต่าง เน้นการร่วมมือกันเพื่อหาทางออกของปัญหา ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วม ในการตัดสินใจ สรุปได้ว่าหลักธรรมทางพุทธสามารถนำมาบูรณาการใช้ในการส่งเสริมการตื่นรู้ทาง การเมืองของประชาชนได้ โดยเน้นที่การพัฒนาจิตใจให้มีเมตตา กรุณา และความรับผิดชอบต่อ ส่วนรวม เพื่อสร้างสังคมที่อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขและสงบสุข
เอกสารอ้างอิง
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์. (2543). การจัดการเครือข่าย: กลยุทธ์สำคัญสู่ความสำเร็จของการปฏิรูปการศึกษา. กรุงเทพมหานคร: ซัคเซสมีเดีย.
คณาจารย์สำนักพิมพ์เลี่ยงเซียง. (2546). หนังสือบูรณาการแผนใหม่ นักธรรมชั้นตรี. กรุงเทพมหานคร: เลี่ยงเซียง.
จุมพล หนิมพานิช. (2533). กระบวนการเรียนรู้ทางการเมืองกับทัศนคติทางการเมืองของคนไทย. ใน เอกสารการสอนชุดวิชาพื้นฐานทางสังคมและวัฒนธรรมของเมืองไทย หน่วยที่ 5. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ชนิดา จิตตรุทธะ. (2556). วัฒนธรรมปิระมิดกับการทำให้เป็นประชาธิปไตย. กรุงเทพมหานคร: คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ชุติ ระบอบ และคณะ. (2552). ระเบียบวิธีวิจัย. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต.
ทองหล่อ วงษ์ธรรมา. (2542). ปรัชญา 201 พุทธศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: โอ เอส.พริ้นติ้ง เฮ้าส์.
ปัญญา ใช้บางยาง. (2546). ธรรมาธิบาย เล่ม 1. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์รติธรรม.
พรศักดิ์ ผ่องแผ้ว และสายทิพย์ สุคติพันธ์. (2526). ข่าวสารทางการเมืองของคนไทย. กรุงเทพมหานคร: เจ้าพระยาการพิมพ์.
พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช). (2543). พจนานุกรมเพื่อศึกษาพุทธศาสน์ (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพมหานคร: ธรรมสภา.
พระธรรมโกศาจารย์ ประยูร ธมฺมจิตฺโต. (2553). วิธีบูรณาการพระพุทธศาสนากับศาสตร์สมัยใหม่. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต). (2559). พจนานุกรมพุทธศาสตร์ฉบับประมวลธรรม (พิมพ์ครั้งที่ 27). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
Nakata, T. (2000). Thai democracy. Bangkok: Sahy Block and Karnpim Ltd.
Nakata, T. (2003). Thai culture lifestyle in the politics of the new generation. Bangkok: Sahy Block and Karnpim.
Pye, L. (1962). Politics, personality, and nation building: Burma’s search for identity. New Haven: Yale University Press.
Pye, L. W., & Verba, S. (1965). Political culture and political development. Princeton: Princeton University Press.
Rush, M., & Althoff, P. (1971). Political socialization. London: Macmillan.
Zaller, J. R. (2003). The nature and origins of mass opinion. New York: Cambridge University Press.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 Author(s)

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

