การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยกลวิธีการอ่านแบบ Guided Reading and Summarising Procedure (GRASP) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ผู้แต่ง

  • วีรากร น้อยปักษา มหาวิทยาลัยนเรศวร, พิษณุโลก, ประเทศไทย
  • อังคณา อ่อนธานี มหาวิทยาลัยนเรศวร, พิษณุโลก, ประเทศไทย

คำสำคัญ:

กิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยกลวิธีการอ่านแบบ GRASP, ความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างและประเมินประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยกลวิธีการอ่านแบบ GRASP เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามเกณฑ์ 75/75 2) ศึกษาผลการใช้กิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยกลวิธีการอ่านแบบ GRASP เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี จำนวน 30 คน โดยใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) กิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยกลวิธีการอ่านแบบ GRASP 2) แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจ 3) แบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบทีแบบไม่เป็นอิสระ และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า 1. กิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยกลวิธีการอ่านแบบ GRASP เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีผลการประเมินความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด (mean = 4.86, SD = 0.30) และมีประสิทธิภาพเท่ากับ 78.05/77.77 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 75/75 2. ความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยยะสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3. นักเรียนชื่นชอบกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกลวิธีการอ่านแบบ GRASP เพราะมีหลากหลายกิจกรรมที่แปลกใหม่และน่าสนใจให้ทำเป็นกลุ่ม โดยมีครูคอยชี้แนะอย่างใกล้ชิด กิจกรรมการเรียนรู้ในแต่ละขั้นช่วยให้นักเรียนเกิดความเข้าใจ จดจำข้อมูล เข้าใจโครงสร้างและความสัมพันธ์ระหว่างรายละเอียดต่าง ๆ และสรุปใจความสำคัญของบทอ่านได้ อีกทั้งยังสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างอิสระ ตลอดจนเสริมสร้างความมั่นใจในตนเองและทัศนคติที่ดีต่อการอ่านภาษาอังกฤษ

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560). โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

ธนิตา เผ่าพงษ์ยา. (2565). การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้เทคนิค KWL Plus ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสามร้อยยอดวิทยาคม [การค้นคว้าอิสระปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร]. http://ithesisir.su.ac.th/dspace/bitstream/123456789/4355/1/620620105.pdf

ปทิตตา สัตตภูธร. (2562). ผลของการใช้เทคนิคการสอนอ่าน SQ3R ร่วมกับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 [การค้นคว้าอิสระปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร].

พิมชนก หอมหวล. (2565). การพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยการจัดการเรียนรู้แบบ DR-TA ร่วมกับเทคนิค 5W1H สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหาสารคาม].

วิกรม จันทรจิตร. (2564). การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักศึกษาระดับปริญญาตรี โดยใช้รูปแบบการสอนอ่านแบบกว้างขวางร่วมกับการสอนกลวิธีการอ่าน [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร]. http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/bitstream/123456789/3103/1/58254904.pdf

สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน). (2567). รายงานประจำปี 2566. สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน). https://www.niets.or.th/th/content/view/26078

สิริพัชร์ เจษฎาวิโรจน์. (2550). การจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการ. บุ๊ค พอยท์.

สุชา อยู่อ่อน. (2565). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยวิธีการสอน SQ4R ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วารสารสังคมศาสตร์ปัญญาพัฒน์, 4(3), 57–70.

อาภรณ์ ใจเที่ยง. (2546). หลักการสอน (พิมพ์ครั้งที่ 3). โอเดียนสโตร์.

Braunger, J., & Lewis, J. P. (1998). Building a knowledge base in reading. Northwest Regional Educational Laboratory's Curriculum and Instruction Services.

Fountas, I. C., & Pinnell, G. S. (2013). Guided reading responsive across the grades. Guilford Press.

Grabe, W., & Stoller, F. L. (2002). Adaptations of Manzo’s guided reading procedure. Reading Horizons, 3(20), 188–192.

Novita, D. (2022). The effectiveness of GRASP strategy on students’ reading comprehension at the eleventh grade of SMAN 1 Balong Ponorogo in academic year 2021/2022 [Master’s thesis, IAIN Ponorogo].

Haryanto, D. (2021). Exploring guided reading strategy to teach reading comprehension [Unpublished doctoral dissertation]. University of Nusantara.

Hayes, D. A. (1992). Helping students GRASP the knack of writing summaries. Journal of Reading, 2(33), 96–101.

Jeffers, K. (2011). Strategies to support struggling readers in career & technical subjects. Chicago Public Schools.

Ramadani, D. P. (2024). The influence of Initiation-Response-Evaluation (IRE) strategy on reading comprehension of the tenth graders at SMAN 1 Punggur Central Lampung [Master’s thesis, Institute Agama Islam Negeri Metro]. https://repository.metrouniv.ac.id/id/eprint/10439/

Winarti, A., Sinaga, T., & Sukirlan, M. (2020). The use of modified GRASP to teach students’ reading comprehension. U-Jet Journal, 9(2), 233–246. https://doi.org/10.1210/

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-03-31

รูปแบบการอ้างอิง

น้อยปักษา ว. ., & อ่อนธานี อ. . (2025). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยกลวิธีการอ่านแบบ Guided Reading and Summarising Procedure (GRASP) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 . Journal of Buddhist Education and Research (JBER), 11(1), 533–547. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jber/article/view/286357

ฉบับ

ประเภทบทความ

สารบัญ