วิเคราะห์หลักพุทธธรรมที่ปรากฏในประเพณีการทำบุญร่วมมิตรของชาวพุทธ ตำบลขอนแตก อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์

ผู้แต่ง

  • พระสุพรรณ์ กิตฺติคุตฺโต (ชฎาแก้ว) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตสุรินทร์
  • ภัฏชวัชร์ สุขเสน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตสุรินทร์
  • พระปลัดกิตติ ยุตฺติธโร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตสุรินทร์

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ 1) ศึกษาบริบทชุมชนชาวพุทธตำบลขอนแตก อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ 2) ศึกษารูปแบบและพิธีกรรมของประเพณีการทำบุญร่วมมิตรของชาวพุทธตำบลขอนแตก อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ 3) วิเคราะห์หลักพุทธธรรมที่ปรากฏในประเพณีการทำบุญร่วมมิตรของชาวพุทธตำบลขอนแตก อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพซึ่งประกอบด้วยสองส่วนคือ ภาคเอกสารโดยวิเคราะห์ข้อมูลจากพระไตรปิฎก เอกสารวิชาการทางพระพุทธศาสนา งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ภาคสนาม โดยการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลหลัก จานวน 35 รูป/คน แล้วนำเสนอผลการวิจัยด้วยวิธีการวิเคราะห์เชิงพรรณนา

              ผลการวิจัยพบว่า

    บริบทชุมชนชาวพุทธตำบลขอนแตก อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ประชาชนส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา ตำบลขอนแตก ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2514 โดยมีนายแหม แหมทอง  และญาติพี่น้องอพยพมาจากนครจำปาศักดิ์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเป็นผู้ก่อตั้งหมู่บ้าน ต่อมาภายหลังมีนายเทียม มณีรัตน์ เป็นกำนันคนแรก ใช้ภาษาส่วยในการสื่อสารเป็นส่วนใหญ่จนถึงปัจจุบัน วัฒนธรรมประเพณีความเชื่อ ได้แก่ ประเพณีบุญข้าวจี่ ประเพณีบุญผะเหวด และประเพณีการทำบุญร่วมมิตร

    รูปแบบและพิธีกรรม การทำบุญร่วมมิตรเป็นประเพณีการทำบุญของชุมชนชาวกูยตำบลขอนแตก เพื่อสืบสานวัฒนธรรมการทำบุญของชุมชนชาวกูยที่มีมานานมากกว่า 30 ปี จัดเป็นทานพิธีอย่างหนึ่ง ลำดับขั้นตอนของศาสนพิธี คือ การเตรียมสถานที่ การเตรียมอุปกรณ์ การเตรียมบุคลากร และการเตรียมกำหนดการ ส่วนองค์ประกอบของประเพณีการทำบุญร่วมมิตร มี 4 อย่างคือ พิธีกรรม พิธีการ พิธีกร และกิจกรรมขับร้องทำนองสรภัญญะ

หลักพุทธธรรมที่ปรากฏในประเพณีการทำบุญร่วมมิตร  คือ 1) บุญกิริยาวัตถุ 3 ได้แก่ ทาน ศีล ภาวนา 2) หลักสังคหวัตถุ 4 ได้แก่ ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา และสมานัตตา 3) หลักสามัคคีธรรม ส่วนหลักพุทธธรรมอื่นๆ ได้แก่ หลักสาราณียธรรม 6 ได้แก่ 1) สามัคคีทางกาย คือ ให้ความช่วยเหลือแรงกายต่อกัน (เมตตากายกรรม) 2) สามัคคีทางการพูด คือ ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อกัน (เมตตาวจิกรรม) 3) สามัคคีทางมโนธรรม คือ ตั้งความปรารถนาดีไว้ในใจตนต่อชุมชน (เมตตามโนกรรม) 4) จัดสรรผลประโยชน์ที่ได้ให้เป็นธรรมต่อสมาชิกในชุมชน(สาธารณโภคี) 5) ร่วมกันทำงานอย่างมีระเบียบวินัยไม่ขัดแย้งกันทางกาย วาจา (สีลสามัญญตา) 6) มีความเห็นร่วมกันทำงานโดยไม่ขัดแย้งด้านความคิดเห็น (ทิฏฐิสามัญญตา) และมีการอนุรักษ์สืบสานประเพณีการทำบุญร่วมมิตรของชาวพุทธตำบลขอนแตกจากอดีตจนถึงปัจจุบัน

ทร์ ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ  ตำบลขอนแตก ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2514 โดยมีนายแหม แหมทอง  และญาติพี่น้องอพยพมาจากนครจำปาศักดิ์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเป็นผู้ก่อตั้งหมู่บ้าน ต่อมาภายหลังมีนายเทียม มณีรัตน์ เป็นกำนันคนแรก ใช้ภาษาส่วยในการสื่อสารเป็นส่วนใหญ่จนถึงปัจจุบัน วัฒนธรรมประเพณีความเชื่อ ได้แก่ ประเพณีบุญข้าวจี่ ประเพณีบุญผะเหวด และประเพณีการทำบุญร่วมมิตร

    รูปแบบและพิธีกรรม การทำบุญร่วมมิตรเป็นประเพณีการทำบุญของชุมชนชาวกูยตำบลขอนแตก เพื่อสืบสานวัฒนธรรมการทำบุญของชุมชนชาวกูยที่มีมานานมากกว่า 30 ปี จัดเป็นทานพิธีอย่างหนึ่ง ลำดับขั้นตอนของศาสนพิธี คือ การเตรียมสถานที่ การเตรียมอุปกรณ์ การเตรียมบุคลากร และการเตรียมกำหนดการ ส่วนองค์ประกอบของประเพณีการทำบุญร่วมมิตร มี 4 อย่างคือ พิธีกรรม พิธีการ พิธีกร และกิจกรรมขับร้องทำนองสรภัญญะ

หลักพุทธธรรมที่ปรากฏในประเพณีการทำบุญร่วมมิตร  คือ 1) บุญกิริยาวัตถุ 3 ได้แก่ ทาน ศีล ภาวนา 2) หลักสังคหวัตถุ 4 ได้แก่ ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา และสมานัตตา 3) หลักสามัคคีธรรม ส่วนหลักพุทธธรรมอื่นๆ ได้แก่ หลักสาราณียธรรม 6 ได้แก่ 1) สามัคคีทางกาย คือ ให้ความช่วยเหลือแรงกายต่อกัน (เมตตากายกรรม) 2) สามัคคีทางการพูด คือ ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อกัน(เมตตาวจิกรรม) 3) สามัคคีทางมโนธรรม คือ ตั้งความปรารถนาดีไว้ในใจตนต่อชุมชน(เมตตามโนกรรม) 4) จัดสรรผลประโยชน์ที่ได้ให้เป็นธรรมต่อสมาชิกในชุมชน(สาธารณโภคี) 5) ร่วมกันทำงานอย่างมีระเบียบวินัยไม่ขัดแย้งกันทางกาย วาจา(สีลสามัญญตา) 6) มีความเห็นร่วมกันทำงานโดยไม่ขัดแย้งด้านความคิดเห็น(ทิฏฐิสามัญญตา) และมีการอนุรักษ์สืบสานประเพณีการทำบุญร่วมมิตรของชาวพุทธตำบลขอนแตกจากอดีตจนถึงปัจจุบัน

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

กรมพระจันทบุรีนฤนาท. (2538). ปทานุกรมบาลี-ไทย-อังกฤษ-สังสกฤต. กรุงเทพฯ: มหามกุฎราชวิทยาลัย.

บุญตัน หล้ากอง. (2532). “แนวคิดเรื่องการพัฒนาชุมชนในพุทธศาสนา”. วิทยานิพนธ์ศิลปะศาสตร มหาบัณฑิต สาขาวิชาปรัชญา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

พระภัทธชาพงษ์ สิริภทฺโท (ก่ำชัยภูมิ). (2556). “การศึกษาหลักพุทธธรรมที่ปรากฏในบทสูตรขวัญอีสาน”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระมหาสมชัย ปริมุตฺโต และคณะ. (2562). “ศึกษาวิเคราะห์แนวทางส่งเสริมการทำบุญของชาวพุทธตำบลทุ่งใหญ่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ”. วารสารสันติศึกษาปริทรรศ์ มจร, 7 (ฉบับเพิ่มเติม): 314-325.

พศวีร์ พงษ์พิจิตรและคณะ. (2565). “การประยุกต์ใช้หลักสังคหวัตถุธรรมในการดำเนินชีวิตของประชาชนตําบลวัดประดู่ อําเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี”. วารสารสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 5(1) 2565: 47-65.

มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.กรุงเทพมหานคร: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

วิลาส โพธิสาร. (2548). การปรับตัวของชาวกูยในบริบทพหุวัฒนธรรมเขตอีสานใต้. รายงานการวิจัย.ทุนอุดหนุนจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติกระทรวงวัฒนธรรม.

อาภรณ์ พุกกะมานและคณะ. (2538). “การศึกษาการสอนศีลเพื่อสร้างเสริมพุทธธรรมจริยธรรมในสังคมไทย”. รายงานผลการวิจัย. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์เจริญผล.

สัมภาษณ์. นายสุริวัฒน์ อัคชาติ. 10 มีนาคม 2567. องค์การบริหารส่วนตำบลขอนแตก อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-22

รูปแบบการอ้างอิง

กิตฺติคุตฺโต (ชฎาแก้ว) พ., สุขเสน ภ. ., & ยุตฺติธโร พ. (2025). วิเคราะห์หลักพุทธธรรมที่ปรากฏในประเพณีการทำบุญร่วมมิตรของชาวพุทธ ตำบลขอนแตก อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์. วารสารวนัมฎองแหรกพุทธศาสตรปริทรรศน์, 12(1), 59–72. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Vanam_434/article/view/277275

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย