บทบาทของพระสงฆ์ต่อการพัฒนาวัดให้เป็นศูนย์กลางของชุมชนตำบลปรือ อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์

ผู้แต่ง

  • พระมหายุทธพิชาญ โยธสาสโน ทองจันทร์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระดับความคิดเห็นของพระสงฆ์และประชาชนที่มีต่อบทบาทของพระสงฆ์ต่อการพัฒนาวัดให้เป็นศูนย์กลางของชุมชนตำบลปรือ อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์และเพื่อศึกษาข้อเสนอแนะพระสงฆ์และประชาชนที่มีต่อบทบาทของพระสงฆ์ต่อการพัฒนาวัดให้เป็นศูนย์กลางของชุมชนตำบลปรือ อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ วิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) มีแบบสอบถาม (Questionnaires)  เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ประชาชนและพระสงฆ์  ๑๐๐ คน/รูป สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (x̄ ) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

ผลการศึกษาพบว่า ระดับความคิดเห็นของพระสงฆ์ต่อบทบาทของพระสงฆ์ต่อการพัฒนาวัดให้เป็นศูนย์กลางของชุมชนตำบลปรือ อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ สุรินทร์ในภาพรวมพบว่าอยู่ในระดับปานกลางและเมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านการศึกษาสงเคราะห์ และ ด้านการสาธารณูปการ อยู่ในระดับมาก ส่วนด้านอื่นๆ เรียงตามลำดับค่าเฉลี่ยในแต่ละด้านจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านการศึกษาสงเคราะห์  ด้านการสาธารณูปการ ด้านการศาสนศึกษา ด้านการปกครอง ด้านการสาธารณสงเคราะห์ ด้านการเผยแผ่ศาสนธรรมอยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน

ข้อเสนอแนะ บทบาทของพระสงฆ์ต่อการพัฒนาวัดให้เป็นศูนย์กลางของชุมชนตำบลปรือ อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ทั้ง ๖ ด้าน ไว้ว่า

๑.ด้านการปกครองพระสงฆ์มีรูปแบบในการปกครองวัด และดูแลพระภิกษุสามเณรและยังปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนถือว่าเป็นการดี  เพราะวัดกับพระสงฆ์เป็นแหล่งรวมจิตใจของประชาชน

๒. ด้านการศาสนศึกษากิจกรรมของพระสงฆ์ที่ต้องปฏิบัติ อย่างเช่นการบวชเรียน  แต่บางครั้งบางวัดก็บวชแต่ไม่ได้เรียน  ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นการบวชที่  เป็นศูนย์  เพราะพ่อแม่ต้องการให้ลูกบวชเรียนไม่ใช่บวชปฏิบัติธรรมอย่างเดียวความรู้ก็สำคัญเหมือนกัน

๓. ด้านการศึกษาสงเคราะห์ควรจะพัฒนาเยาวชนให้หันหน้าเข้าวัดให้มากขึ้นควรมีกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เยาวชนได้มีส่วนร่วมกับวัดให้มากขึ้นบทบาทของพระสงฆ์ในการพัฒนาวัดและเยาวชนถือว่าสำคัญเป็นอย่างยิ่งเพราะว่าทุกวันนี้เยาวชนจะห่างหายจากวัดไปมาก 

๔.ด้านการเผยแผ่ศาสนธรรมการปฏิบัติธรรมนั้นวัดยังขาดผู้ให้ความรู้ด้านธรรมเทศนาบางวัดไม่มีเลย  คนในชุมชนจึงขาดความเข้าใจอย่างถูกต้องในศาสนา 

 ๕.ด้านการสาธารณูปการพระสงฆ์ควรจะจัดกิจกรรมที่เกี่ยวกับการพัฒนาวัดที่เกี่ยวกับการจัดสถานที่ในบริเวณวัด  เช่น ทุกวันเสาร์-อาทิตย์  ควรมีการเชิญชวนให้เยาวชนมีการมาทำความดีด้วยการมากวาดลานวัดทำความสะอาดบนศาลาวัด  เป็นต้น  วัดควรจะมีสถานที่ ๆ ทำให้เยาวชนมาศึกษาหาความรู้เพิ่มในวันหยุด

 ๖.ด้านการสาธารณสงเคราะห์กิจกรรมทุกกิจกรรมที่พระสงฆ์พาชาวบ้านปฏิบัติถือว่าดีทุกกิจกรรม

References

บรรณานุกรม
เฉียบ ไทยยิ่ง. “ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของเจ้าอาวาสในการพัฒนาวัดให้เป็นศูนย์กลางชุมชน : กรณีศึกษา ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ”. รายงานการวิจัย. กรุงเทพมหานคร :โรงพิมพ์การศาสนา.
พระราชวรมุนี (ประยุทธ์ ปยุตฺโต). ๒๕๒๗. สถาบันสงฆ์กับสังคมไทย. กรุงเทพมหานคร: มูลนิธิโกมล คีมทอง
เจ้าอธิการวิทูล แรงประโคน. “บทบาทของพระสงฆ์ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและการพัฒนา จริยธรรมประชาชนในพื้นที่อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์”. ปริญญารัฐ ประศาสนศาสตร มหาบัณฑิต สาขารัฐศาสนศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์.
พระมหานฤพนธ์ น้อยโนนงิ้ว. “บทบาทของพระสงฆ์กับการพัฒนาสังคมและวัฒนธรรม : กรณีศึกษาพระรัตนกวี รองเจ้าคณะจังหวัดเลยรูปที่ 1 ฝ่ายมหานิกาย”.ปริญญานิพนธ์ สาขาไทย ศึกษาเพื่อการพัฒนา. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย.
พระวิรุต นรรัตน์. “บทบาทพระสังฆาธิการต่อการบริหารงานคณะสงฆ์ : กรณีศึกษาพระสังฆธิการ ระดับเจ้าอาวาสในเขตปกครองคณะสงฆ์อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย”. วิทยานิพนธ์ ศิลปะศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาวิชายุทธศาสตร์การพัฒนา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย, (๒๕๕๒).
พระมหาพยนต์ สนฺตจิตฺโต. “บทบาทพระสงฆ์กับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ : กรณีศึกษาป่า ชุมชนบ้านปะอาว ตำบลปะอาว อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี”. หลักสูตรศิลปะ ศาสตร์ มหาบัณฑิต. สาขาสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัย ราชภัฏอุบลราชธานี,
เอื้อมพร นวลน้อย. “บทบาทของพระสงฆ์กับการพัฒนาการศึกษา : กรณีศึกษาพระราชวุฒาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดเลยและเจ้าอาวาสวัดศรีวิชัยวนาราม”. ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาไทยศึกษาเพื่อการพัฒนา.บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย.
ฉัตรชัย ไชยโยธา. “บทบาทพระสงฆ์กับการพัฒนา : กรณีศึกษาหลวงปู่เครื่อง สุภทฺโท วัดสระ กำแพงใหญ่ อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ”. ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต . บัณฑิตศึกษา : มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2021-03-03