การบริหารงานตามหลักพุทธธรรมาภิบาลขององค์การบริหาร ส่วนตำบลตระเปียงเตีย อำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์
คำสำคัญ:
การบริหารงาน, หลักพุทธธรรมาภิบาล, องค์การบริหารส่วนตำบลบทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อศึกษาระดับการบริหารงานขององค์การบริหารส่วนตำบลตระเปียงเตีย อำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์ 2) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบการบริหารงานขององค์การบริหารส่วนตำบลตระเปียงเตีย อำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์ โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ 3) เพื่อนำเสนอแนวทางการบริหารงานตามหลักอปริหานิยธรรมขององค์การบริหารส่วนตำบลตระเปียงเตีย อำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์ โดยการศึกษาวิจัยครั้งนี้ ดำเนินการตามระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี คือการวิจัยเชิงปริมาณ ซึ่งใช้วิธีการวิจัยเชิงสำรวจ จากการแจกแบบสอบถาม และการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยวิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 12 รูป/คน และใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท นำเสนอเป็นความเรียงประกอบตารางแจกแจงความถี่ของผู้ให้ข้อมูลสำคัญ เพื่อสนับสนุนข้อมูลเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง คือ ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลตระเปียงเตีย อำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 378 คน
ผลการวิจัยพบว่า
ระดับการบริหารงานขององค์การบริหารส่วนตำบลตระเปียงเตีย อำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์ พบว่า โดยภาพรวมอยูในระดับมาก
จากการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของประชาชนต่อการบริหารงานขององค์การบริหารส่วนตำบลตระเปียงเตีย จำแนกตามเพศ และรายได้ต่อเดือน พบว่าไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานการวิจัย เมื่อจำแนกตามอายุ ระดับการศึกษา อาชีพ พบว่า แตกต่างกัน จึงยอมรับสมมติฐานการวิจัย
แนวทางการบริหารงานตามหลักอปริหานิยธรรมขององค์การบริหารส่วนตำบลตระเปียงเตีย อำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์ พบว่า 1) ด้านการประชุมเป็นนิตย์ องค์การบริหารส่วนตำบลตระเปียงเตีย ควรหมั่นประชุมกันเป็นประจำสม่ำเสมอ 2) ด้านการพร้อมเพียงกันประชุม องค์การบริหารส่วนตำบลตระเปียงเตีย ควรมีพร้อมเพรียงกันประชุม ควรออกกฎเกณฑ์ข้อบังคับสำหรับการเข้าประชุมอย่างชัดเจน 3) ด้านการไม่บัญญัติหรือไม่ล้มเลิกข้อบัญญัติ องค์การบริหารส่วนตำบลตระเปียงเตีย ควรสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียบ ข้อบังคับ ข้อบัญญัติ หรือความเป็นมาที่องค์การบริหารส่วนตำบลได้ยึดถือปฏิบัติอยู่ 4) ด้านการเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาองค์การบริหารส่วนตำบลตระเปียงเตีย ควรมีการทบทวนพัฒนาด้านจริยธรรม คุณธรรม เพื่อเสริมสร้างมนุษย์สัมพันธ์อันดีระหว่างกันให้เกิดขึ้น 5) ด้านการให้เกียรติและคุ้มครองสิทธิสตรี องค์การบริหารส่วนตำบลตระเปียงเตีย ควรจัดสรรสิทธิประโยชน์ ตำแหน่งงานต่าง ๆ ภายในองค์กรอย่างทัดเทียมทั่วถึง 5) ด้านการส่งเสริม และรักษาวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนตำบลตระเปียงเตีย ควรริเริ่มเพิ่มเติมถึงการให้ความเคารพสักการะ นับถือ บูชาเจติยสถาน โบราณสถานของชุมชน โดยการส่งเสริมและรักษาวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น 7) ด้านการอารักขา บำรุง คุ้มครอง ปกป้อง อันชอบธรรม องค์การบริหารส่วนตำบลตะเปียงเตีย ควรตระหนักเป็นอย่างยิ่งในการจัดการให้ความอารักขา บำรุง คุ้มครอง อันชอบธรรม แก่บรรพชิต ผู้ทรงศีลทรงธรรมอันบริสุทธิ์
Downloads
เอกสารอ้างอิง
ชุติ ระบอบ และคณะ. 2552. ระเบียบวิธีวิจัย. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัย : กรุงเทพมหานครธุรกิจบัณฑิต.
ทักษิณ ประชามอญ. 2560. “รูปแบบการบริหารงานแบบมีส่วนร่วมตามหลักพุทธธรรมขององค์การบริหารส่วนจังหวัดในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ฝ่ายนโยบายและแผน องค์การบริหารส่วนตำบลตระเปียงเตีย. 2566. แผนพัฒนาองค์การบริหารส่วนตำบลตระเปียงเตีย พ.ศ. 2566 – 2570. องค์การบริหารส่วนตำบลตระเปียงเตีย : จังหวัดสุรินทร์.
พระครูสุธรรมพัชรนิวิฐ (ญาณเดช สุตฺตธมฺโม). 2559. “การบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลแนวพุทธธรรมขององค์การบริหารส่วน ตำบลปากช่อง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระปลัดสุระ ญาณธโร (จันทึก). 2559. “รูปแบบการบริหารงานแบบมีส่วนร่วมตามหลักอปริหานิยธรรมของเทศบาลตำบลในจังหวัดสุรินทร์”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ยุทธ ไกยวรรณ์. 2543. “พื้นฐานการวิจัย“. พิมพ์ครั้งที่ 4. สุวีริยาสาส์น : กรุงเทพมหานคร.
