การพัฒนาสมรรถนะการแก้ปัญหาเชิงพฤติกรรมนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1โดยใช้กระบวนการจิตศึกษา

ผู้แต่ง

  • เพ็ญวิไล หุ่นทอง หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
  • สิริพัฒถ์ ลาภจิตร หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
  • ประทวน วันนิจ หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
  • สุวัฒน์ อุ่นทานนท์ หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์

คำสำคัญ:

สมรรถนะการแก้ปัญหาเชิงพฤติกรรม, สภาพปัญหา, พฤติกรรม, กระบวนการจิตศึกษา

บทคัดย่อ

งานวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์1) เพื่อสำรวจและศึกษาสภาพปัญหาเชิงพฤติกรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1โรงเรียนบ้านบัวขุนจง (กรป.กลางอุปถัมภ์) 2) เพื่อพัฒนาสมรรถนะการแก้ปัญหาเชิงพฤติกรรมนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้กระบวนการจิตศึกษา 3) เพื่อประเมินความพึงพอใจของการพัฒนาสมรรถนะการแก้ปัญหาเชิงพฤติกรรมนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้กระบวนการจิตศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านบัวขุนจง (กรป.กลางอุปถัมภ์) จำนวน 12 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 วิธีการคัดเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) แบบศึกษาสภาพปัญหาเชิงพฤติกรรมรายบุคคล 2) แฟ้มสะสมผลงานนักเรียน 3) แบบประเมินความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแบบประเมิน ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

  1. ผลการศึกษาสภาพปัญหาพฤติกรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านบัวขุนจง (กรป.กลางอุปถัมภ์) ผู้ศึกษาสรุปได้ว่าพฤติกรรมที่เป็นปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านบัวขุนจง(กรป.กลางอุปถัมภ์) ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบให้การเรียนไม่บรรลุเป้าหมาย ได้แก่ ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ไม่สามารถเสนอแนวทางการแก้ปัญหาอย่างง่ายได้ ไม่มีสมาธิ ไม่จดจ่อและไม่ใส่ใจ มีการโทษเพื่อนเมื่อเกิดปัญหาไม่เก็บอุปกรณ์ของส่วนรวมให้ถูกที่
  2. จากการศึกษาผลการประเมินคุณภาพแฟ้มสะสมผลงานนักเรียน ในภาพรวมอยู่ในระดับที่ ดีมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.56 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.20 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านความครบถ้วนขององค์ประกอบแฟ้มสะสมผลงาน อยู่ในระดับที่ดีมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.25 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.87 ด้านการจัดเรียงเนื้อหาสอดคล้องกับความต้องการของกิจกรรม อยู่ในระดับที่ ดีมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.50 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.67 ด้านการพัฒนาผลงานของนักเรียน อยู่ในระดับ ที่ดีมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.83 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.39 และด้านความตั้งใจในการทำผลงาน นักเรียน อยู่ในระดับ ที่ดีมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.67 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.20
  3. จากการศึกษาผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการพัฒนาสมรรถนะการแก้ปัญหาเชิงพฤติกรรมโดยใช้กิจกรรมจิตศึกษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านครูผู้สอน ในภาพรวมอยู่ในระดับที่ ดีมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.75 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.12 ด้านเนื้อหา ในภาพรวมอยู่ในระดับที่ ดีมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.72 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.06 และด้านกิจกรรมการเรียนการสอน ในภาพรวมอยู่ในระดับที่ดีมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.67 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.12

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ

_______. (2546). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่2) พ.ศ. 2545. กรุงเทพฯ : กระทรวงศึกษาธิการ.

กัมพล เจริญรักษ์. (2566). จิตศึกษากับการพัฒนาปัญญาภายใน. เข้าถึงได้ จาก http://www.ires.or.th/wp-content/uploads/2018/03.pdf สืบค้นออนไลน์

คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2553). แนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีวิทยฐานะชำนาญการและชำนาญการ พิเศษ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด. กรุงเทพฯ : สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน.

คมสัน ณ รังสี. (2562). “ผลการจัดการเรียนการสอนด้วยโครงงานเป็นฐานร่วมกับแนวคิดจิตศึกษาโรงเรียนประณีตวิทยาคม”. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษามหาบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยบูรพา.

แคทรียา แสงใส. (2567). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่จัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค, ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสังคมศึกษา, มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์.

พลวัต วุฒิประจักษ์.(2564). “การพัฒนาหลักสูตรรายวิชาจิตตปัญญาศึกษา สำหรับนักศึกษาครูเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะบัณฑิตครูที่พึงประสงค์”. ดุษฏีนิพนธ์ภาควิชาหลักสูตรและการสอน. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

ราตรี เลิศหว้าทอง. (2566). “ผลการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD ต่อผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียน วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา”. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-22

รูปแบบการอ้างอิง

หุ่นทอง เ., ลาภจิตร ส., วันนิจ ป., & อุ่นทานนท์ ส. (2025). การพัฒนาสมรรถนะการแก้ปัญหาเชิงพฤติกรรมนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1โดยใช้กระบวนการจิตศึกษา. วารสารวนัมฎองแหรกพุทธศาสตรปริทรรศน์, 12(1), 315–326. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Vanam_434/article/view/281059

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย